ดร.สติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ประเมินสถานการณ์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า ถ้าหากถูกยุบก่อนเลือกตั้ง แล้วมีคนเผลอไปลงคะแนนให้ จะถือว่าบัตรเลือกตั้งใบนั้นเป็นบัตรเสีย เพราะตอนนี้บัตรเลือกตั้งได้ถูกสั่งพิมพ์แล้ว ฉะนั้นมันกระทบสิทธิของประชาชนแน่ๆ ไม่ว่าจะยุบก่อนหรือยุบหลัง ส่วนในแง่ทางการเมือง ถ้ายุบก่อน จะเกิดการบริหารจัดการเรื่องฐานเสียง ซึ่งส่วนใหญ่คงอยู่ในกลุ่มก้อนพันธมิตรเดียวกัน
เมื่อถามว่า ท่าทีของ ทษช.ในช่วงนี้ก็เดินทางลงพื้นที่หาเสียงตามปกติ เหมือนไม่กลัวว่าจะเป็นคะแนนเสียเปล่า ดร.สติธร ระบุว่า แกนนำซึ่งเป็นผู้ถูกกระทำ คงได้บทเรียนในแง่ที่ว่า ช่วงความขัดแย้งรอบสิบปีที่ผ่านมา ถ้าหากถอย ฝ่ายตรงข้ามก็จะไล่ไปจนสุดทางแบบไม่ปราณี ดังนั้น แกนนำคงสู้เต็มที่ เลยเปลี่ยนท่าทีใหม่ และบอกเป็นนัยไปยังผู้มีอำนาจด้วยว่า พรรคยังคงมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน ยึดมั่นในอุดมการณ์ ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์กับระบอบประชาธิปไตย
ดร.สติธร ระบุอีกว่า การยุบ ทษช.เป็นไปได้ 3 ขยัก คือ
1.ยุบก่อน 24 มีนาคม อันนี้คือทุกอย่างจบ คนที่เลือก ทษช.ก็จะเป็นบัตรเสีย
2.ยุบหลัง 24 มีนาคม แต่อยู่ในช่วง กกต.ยังไม่รับรองผล ตรงนี้จะเกิดกรณีที่ว่า หากเขตไหน ทษช.ได้ที่ 1 ต้องเลือกตั้งใหม่ ส่วนในบัญชีรายชื่อคะแนนต้องถูกตัดทิ้งจากการคิดคำนวณ
3.ยุบหลัง กกต.รับรองผล คือ เป็น ส.ส.แล้ว ภายใน 60 วัน ส.ส.ต้องหาบ้านใหม่ แต่กรณีนี้ก็มีปัญหาว่า การรับรองไปก่อนแล้วสอยทีหลังแบบนี้จะกระทบการคำนวณคะแนนทั้งระบบ กล่าวคือ ถ้า ส.ส.จาก ทษช.ไปพรรคอื่น คะแนนจะตามไปด้วยหรือไม่ แล้วจะต้องคำนวนคะแนน ส.ส.ที่พึงมีของพรรคปลายทางใหม่หรือไม่