“อนุทิน” ลั่น “ภท.” ไม่ใช้เงินซื้อใจปชช. “เศรษฐพงค์” ยัน ทุกนโยบายของพรรคฯ เน้น “ทลายข้อจำกัด-ปลดล็อคกฎหมาย” คำนึงวินัยการคลัง ไม่มีเมกะโปรเจคที่ใช้เงินมหาศาล ชี้ “ปลัดก.คลัง” คงห่วงใยอยากให้ปชช. ศึกษานโยบายแต่ละพรรคก่อนตัดสินใจ แจง “วิชา มหาคุณ” วิจารณ์นโยบายกัญชาเสรี ยัน ไม่ใช่นโยบายสุดซอย แต่ทุกทำอย่างมีขั้นตอน ผ่านการศึกษาวิจัย-รับฟังความเห็น ย้ำ ทำเพื่อประโยชน์ของปชช.
วันที่ 26 กพ. พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ เพราะมีการใช้งบประมาณจำนวนมาก ว่า เรื่องนี้คงเป็นการออกมาแสดงความห่วงใยของท่านปลัดกระทรวง ที่ต้องการให้ประชาชนได้ศึกษานโยบายของแต่ละพรรคการเมืองให้ดีก่อน ซึ่งเรื่องที่ปลัด ก.คลัง ออกมาพูดนั้น เป็นแนวทางที่พรรคภูมิใจไทย ใช้เป็นแนวทางในการทำนโยบายของพรรคอยู่แล้ว ทีมงานของพรรคฯ ได้ศึกษารัฐธรรมนูญ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำนโยบายทุกและทำตามอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นร่างยุทธศาสตร์ชาติ หรือกฎหมายวินัยทางการเงินการคลัง เราคำนึงถึงหมด ว่าทุกนโยบายที่จะออกมาต้องทำได้จริง โดยไม่กระทบวินัยทางการเงินการคลัง
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคฯ ได้ให้แนวคิดชัดเจนในการทำนโยบายของพรรคฯ คือเราจะไม่ใช้เงินหรืองบประมาณเพื่อซื้อใจประชาชน ดังจะเห็นได้ว่านโยบายของเรานั้น เน้นการทำลายข้อจำกัดทางกฎหมาย ซึ่งนำไปสู่การลดอำนาจรัฐ และผลประโยชน์จะตกอยู่กับปากท้องของพี่น้องประชาชน ตนขอยกตัวอย่าง นโยบายปลูกกัญชาเสรี ก็เป็นเรื่องที่เราจะดำเนินการแก้ไข ออกกฎหมาย เพื่อให้กัญชาสามารถปลูกได้เสรี ทำให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่จะเป็นช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน หรือนโยบายแกร็บคาร์ ชัดเจนว่าเป็นการทลายข้อจำกัดทางกฎหมายอีกเช่นกัน เพื่อให้พี่น้องคนทำมาหากินได้ขับรถแกร็บอย่างถูกกฎหมาย เป็นต้น
“นโยบายของท่านหัวหน้าพรรคฯ ชัดเจนว่าเราไม่ใช้เงินเพื่อซื้อใจประชาชน แต่เราจะทำการปลดล็อคด้านกฎหมาย เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถทำมาหากินได้ มีเพียงการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนเท่านั้น อีกทั้งหากพิจารณานโยบายของเรา จะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้มีนโยบายที่เป็นโครงการเมกะโปรเจคอะไร ที่ต้องใช้งบประมาณในจำนวนมหาศาล มีแต่จะเพิ่มรายได้ให้ประชาชน ซึ่งผมอยากให้ประชาชนมั่นใจในนโยบายของเราและเลือกพรรคภูมิใจไทยที่มีหัวใจคือประเทศไทย ซึ่งผมอยากให้ประชาชนมั่นใจในนโยบายของเรา และเลือกพรรคภูมิใจไทย ที่รูปหัวใจมีประเทศไทยอยู่ตรงกลาง”
เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.รังสิต ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายปลูกกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ตนได้เห็นเนื้อหาที่อาจารย์วิชาพูดแล้ว ต้องขอขอบคุณในความห่วงใย ที่อยากให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งตนสามารถยืนยันได้ว่านโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย มีรายละเอียดที่ครอบคลุมปัญหาที่อาจจะตามมาในทุกมิติ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ ซึ่งพรรคได้พยายามให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายนี้มาโดยตลอด แนวคิดหลักของนโยบายปลูกกัญชาเสรี คือ ปลูกเพื่อการแพทย์โดยเสรี ไม่ปิดกั้นประชาชน ไม่ผูกขาดให้นายทุน เปิดโอกาสให้ประชาชนปลูกเพื่อจำหน่ายเป็นวัตถุดิบทางการแพทย์ ปลูกเพื่อใช้ในครัวเรือน เป็นสมุนไพรตามเงื่อนไขกำหนด การนำมาใช้เพื่อสันทนาการ ต้องเป็นไปตามกฎหมายกำหนด เช่น กำหนดอายุ ปริมาณการซื้อ รูปแบบการใช้ พื้นที่การใช้ เป็นต้น ทั้งหมดเรามีการวิจัย การศึกษา ของสถานบันการศึกษารองรับ และเตรียมพร้อมไว้ ในลักษณะที่พร้อมจะดำเนินการ หากทุกฝ่ายเห็นด้วยกับนโยบายของเรา
“การเสนอของพรรคฯ ไม่ใช้เป็นนโยบายกัญชาแบบสุดซอยอย่างที่มีการวิจารณ์ แต่เป็นนโยบายที่เรา ตั้งใจทำอย่างมีขั้นตอน ทำเป็นขั้นๆ ไม่ได้ทำแบบหักดิบที่ต้องสำเร็จในทันที มีการศึกษาเตรียมพร้อม ทั้งเรื่องกฎหมาย เรื่องความพร้อมของคน สังคม โดยได้สอบถามความเห็นอย่างรอบคอบแล้ว จึงออกมาเป็นนโยบายเพื่อผลประโยชน์ทางการแพทย์ การศึกษา ที่สำคัญคือเพื่อประโยชน์ในการแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว