(27 ก.พ.62) สำนักข่าวอิศรา รายงานข่าวในหัวข้อ “ศาลรธน.ยังไม่ตัดสินยุบทษช.บ่ายนี้! เหตุมีขั้นตอนปฏิบัติตามกม.เพียบ แถมเพิ่งประชุมนัดแรก” เมื่อเวลา 10:56 น. โดยอ้างแหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีรายละเอียดว่า
สืบเนื่องจากในช่วงเวลา 13.30 น. วันที่ 27 ก.พ.2562 นี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีนัดหมายพิจารณาคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จากการเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตบัญชีรายชื่อพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ รับคำร้องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ เป็นการรับคำร้องไว้พิจารณาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7 (13) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ว่า การพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญนัดแรกในวันนี้ จะยังไม่มีการพิจารณาตัดสินชี้ขาดคดีใดๆ เกิดขึ้น เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญ เพิ่งได้รับคำคัดค้านจาก กกต. หลังจากที่ได้รับคำชี้แจงจากพรรค ทษช.เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา โดย กกต.ยืนยันว่า การมีมติยื่นคำร้องยุบ ทษช. เป็นกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ตามที่มาตรา 92 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนด จึงไม่ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวน และเป็นการพิจารณาคดีนัดแรกด้วย
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในการพิจารณาคดีนี้ ต้องมีขั้นตอนการจัดทำคำวินิจฉัยคีดส่วนตนของตุลาการ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ระยะเวลาในการจัดทำนานพอสมควรด้วย เพราะตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2561 กำหนดไว้ในมาตรา 75 ว่า ในการวินิจฉัยคดี ตุลาการซึ่งเป็นองค์คณะทุกคนต้องทําความเห็นส่วนตนเป็นหนังสือ พร้อมทั้งแถลงด้วยวาจาต่อที่ประชุม และให้ที่ประชุมปรึกษาหารือร่วมกันก่อนแล้วจึงลงมติ สำหรับความเห็นส่วนตนตามวรรคหนึ่ง ให้ทําโดยสังเขปและต้องเผยแพร่ต่อสาธารณะตามข้อกําหนดของศาล ขณะที่การทําคําวินิจฉัยของศาล องค์คณะอาจมอบหมายให้ตุลาการคนหนึ่งคนใดเป็นผู้จัดทําคําวินิจฉัยตามมติของศาลก็ได้ ส่วนคําวินิจฉัยของศาล ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีคําวินิจฉัย ซึ่งที่ผ่านมาระยะเวลาในการพิจารณาคดีนี้กระชั้นชิดเกินไป แต่ก็ต้องรอฟังผลที่ประชุมว่าจะมีความเห็นเป็นอย่างไร หรือจะสั่งให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมด้วย