ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นหนังสือถึง กกต.เพื่อขอให้ กกต.ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98 ที่ระบุว่าบุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ซึ่งใน(15) ระบุไว้ว่า เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
นายเรืองไกร ระบุว่า ตนติดใจกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. แล้วพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค การเป็นหัวหน้าคสช.ตนมองว่าจะเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ อีกทั้งหลายฝ่ายเข้าใจว่าหัวหน้าคสช.นั้นเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ แต่ก็มีข้อโต้แย้งอยู่บ้างตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ออกมาระบุว่าเป็นเพียงตำแหน่งชั่วคราว จึงอยากให้เกิดความชัดเจนว่าข้อยุติเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ นายเรืองไกรยังยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อปี2543 ที่ กกต.เคยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐมาแล้ว ซึ่งศาลฯวินิจฉัยไว้ส่วนหนึ่งว่า ตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ดังนั้นตำแหน่งหัวหน้า สคช. จึงอาจเทียบเคียงกับตำแหน่งผู้พิพากษาสมบท เนื่องจากหัวหน้า คสช.ได้รับเงินเดือน 75,590 บาท เป็นเงินอัตราเดียวกับประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) อีกทั้งได้เงินเพิ่มอีก 50,000 บาท อย่างนั้นแล้วถ้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นถือว่ารับเงินเกิน 3,000 บาทหรือไม่ ดังนั้นหากจะอธิบายความว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐตัวท่านจะอธิบายได้อย่างไร
ขอบคุณข้อมูล มติชนออนไลน์
ขอบคุณภาพ Prasitchai Kumbang