ไทยโพสต์ เปิดเผยว่า ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. (ดูแลด้านความมั่นคง) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันที่ 7 มี.ค. เวลา 13.30 น. กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า ประการที่ 1 ศาลท่านได้ประกาศบริเวณที่ทำการศาลเป็นเขตอำนาจศาล ประการที่ 2 ศาลได้อนุญาตให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝั่งเข้าไปฟังคำพิพากษาได้ฝั่งละ 16 คน และจัดห้องให้สื่อมวลชนเข้าฟังคำพิพากษาผ่านการถ่ายทอดภาพทางโทรทัศน์ พื้นที่ที่ทำการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นส่วนราชการ ใช้พื้นที่ร่วมกันกับศาลฎีกา กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด ศาลจึงกำหนดพื้นที่เพื่อไม่ให้กระทบกับหน่วยงานอื่น
สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้กำหนดมาตรการไว้ตามพื้นที่ชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก ในส่วนของ “พื้นที่ชั้นใน” เป็นพื้นที่ของศาล มีการใช้เครื่องวอล์คทรูตรวจบุคคลเข้าออกตามปกติ รวมถึงอาจจะต้องขอความร่วมมือตรวจบัตรสื่อมวลชนที่จะเข้าพื้นที่ ส่วนประชาชนที่จะมาให้กำลังใจพรรคไทยรักษาชาติ ศาลได้อนุญาตให้อยู่บริเวณลานกลางศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 1
ส่วน “เขตชั้นกลาง” นอกเขตอำนาจศาลเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พร้อมตั้งจุดสูงข่มและวางกำลังบริเวณพื้นที่โดยรอบ
ขณะที่ “เขตชั้นนอก” จะมีการตั้งจุดตรวจคอยดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ภาพรวมใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด 6 กองร้อย เนื่องจากพื้นที่กว้าง
เบื้องต้นทางพรรคไทยรักษาชาติ ประสานมาว่าจะอยู่ที่ทำการพรรค และมีคนของพรรคส่วนหนึ่งไปฟังการพิจารณา โดยคาดว่าจะมีมวลชนมาให้กำลังใจที่ศูนย์ราชการฯประมาณ 200 คน อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากไปถึงประชาชนที่จะเดินทางมาว่า การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการพิจารณาตามข้อกฎหมาย ถ้าจะมาให้กำลังใจสามารถกระทำได้ ขอเพียงอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้กำลังถึง 6 กองร้อย เนื่องจากต้องการดูแลความสงบและรักษาความปลอดภัย และเป็นการป้องกันเหตุจากผู้ที่ไม่หวังดี หรือมือที่สาม นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมใช้เฮลิคอปเตอร์ ไว้รองรับหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที
ขณะที่ คมชัดลึก รายงานว่า บรรยากาศที่พรรคไทยรักษาชาติ ก่อนวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในคดียุบพรรคที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสที่ 7 มีนาคม 2562 นี้ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าเงียบเหงา ไม่มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น มีเพียงสมาชิกพรรคบางคน ที่เข้ามายังบริเวณที่ทำการพรรค