เมื่อวันที่ 6 มีนาคม “มติชน” รายงานว่า นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลางพรรคพลังประชารัฐ และนางสาวนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงว่า พรรคได้มีการหารือเกี่ยวกับนโยบายข้าว ซึ่งเป็นไฮไลต์ของพรรค ด้วยการเติมเงินบาทแรกเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจากฐานราก เริ่มจากเกษตรกร ด้วยการต่อยอดนโยบายรัฐบาลชุดนี้ ที่ทำมาแล้วและเป็นเรื่องดี โดยได้ข้อสรุปว่า เราจะเพิ่มค่าเกี่ยวจากเดิมไร่ละ 1,500 บาท ไม่เกิน 12 ไร่ เป็นไร่ละ 2,000 บาท จำนวน 20 ไร่ ช่วยค่าปลูกและค่าเตรียมดิน 1,500 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 20 ไร่ และหากชาวนามียุ้งฉางเก็บข้าว เพื่อลดปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาด ทำให้ราคาข้าวดี ก็จะให้ค่าเก็บรักษา 1,500 บาทต่อตัน ซึ่งหากเทียบเป็นค่าปลูกและค่าเกี่ยวเป็นตัน ก็จะอยู่ที่ตันละ 5,800 บาท ซึ่งนโยบายเรื่องข้าว ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่พรรค ต้องทำทันที หากได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
นายอนุชากล่าวว่า การทำนโยบายเรื่องข้าวครั้งนี้ทางพรรคได้เล็งเห็นว่าจำเป็นที่จะต้องป้องกันการทุจริตและต้องการให้เงินทุกบาททุกสตางค์ถึงมือพี่น้องเกษตรกรโดยตรง จึงได้จ่ายเงินให้กับพี่น้องโดยคิดเป็นจำนวนต่อไร่ ซึ่งมีการลงทะเบียนไว้เรียบร้อย ก่อนแล้วซึ่งไม่สามารถมีการเปลี่ยนแปลงหรือเล่นแร่แปรธาตุได้ แต่มีพรรคการเมืองบางพรรคซึ่งเพิ่งออกนโยบายเกี่ยวกับเรื่องข้าว โดยจ่ายเงินให้เกษตรกร โดยคิดเป็นจำนวนตันซึ่งอาจสุ่มเสี่ยงให้เกิดการทุจริตในนโยบายที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่าง หากพี่น้องเกษตรกรมีปริมาณข้าวที่เก็บเกี่ยวได้น้อยกว่าจำนวนตันสูงสุดที่จะได้รับ อาจเกิดการเวียนเทียนหรือการนำข้าวจากต่างประเทศมาสวมสิทธิ ทำให้เกิดการทุจริตและทำให้เกิดการเสียหายต่องบประมาณของแผ่นดิน