(7 มี.ค.62) ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “เสียงประชาชนต่อนโยบายพรรค” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวนทั้งสิ้น 2,191 ตัวอย่าง โดยพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.0 ติดตามข่าวเลือกตั้งบ่อย ๆ ในขณะที่ร้อยละ 36.6 ไม่บ่อย และเพียงร้อยละ 4.4 ไม่ติดตามเลย
ที่น่าเป็นห่วงคือ ความชอบของประชาชนต่อนโยบายของแต่ละพรรค อยู่ในระดับที่ไม่โดดเด่น คือ นโยบายพรรคเพื่อไทยมาอันดับแรก แต่ได้ร้อยละ 9.6 รองลงมา อันดับสอง คือ นโยบายพรรคพลังประชารัฐ ได้ร้อยละ 8.0 ที่น่าสนใจคือ อันดับสามที่ได้เท่ากัน เบียดกันมาคือ นโยบายพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ได้ร้อยละ 7.3 เท่ากัน อันดับสี่ และห้า คือ นโยบายพรรคอนาคตใหม่ ร้อยละ 6.8 และนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ได้ร้อยละ 5.2 อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนเกินครึ่ง หรือร้อยละ 55.8 ที่ยังไม่รู้ ยังสับสน ยังไม่ตัดสินใจ ขอคิดดูก่อน และบางส่วนระบุทุกนโยบายดี เป็นต้น
ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึงคุณสมบัติ แคนดิเดต นายกรัฐมนตรีที่ชอบ พบว่า อันดับแรก หรือร้อยละ 15.3 ระบุ เป็นชาย อายุ 50 ต้น ๆ เก่งด้านเศรษฐกิจ รองลงมาคือ ร้อยละ 10.7 ระบุ เป็นชาย อายุประมาณ 40 ปี เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ร้อยละ 7.7 ระบุ เป็นชาย อายุกว่า 50 เป็นนักการเมือง ยึดหลักการ ร้อยละ 4.2 ระบุ เป็นชาย อายุกว่า 60 ปี ผู้บริหารประเทศระดับสูง ร้อยละ 4.0 ระบุ เป็นหญิง อายุเกือบ 60 ปี อดีตผู้บริหารประเทศระดับสูง ร้อยละ 2.8 ระบุ เป็นชาย อายุ 50 ต้น ๆ อดีตผู้บริหารประเทศระดับสูง และร้อยละ 1.5 ระบุ เป็นชาย อายุเกือบ 70 ปี มีผลงานมากมาย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 53.8 ระบุ อื่น ๆ เช่น ยังไม่มีอะไรในใจ ยังไม่รู้ ใครก็ได้ เป็นต้น
ขอบคุณ ไทยรัฐ