เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ผู้สื่อข่าวมติชนรายงานว่า นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนาได้ระบุถึงสถานการณ์การเมือง ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ว่า ตนขึ้นปราศรัยในหลายเวที มีคนรับฟังแน่นขนัด ตนเองมั่นใจว่าโคราชต้องการพรรคชาติพัฒนา บ่งบอกว่าสิ่งที่พรรคทำไว้ในอดีต กับสิ่งที่กำลังเสนอนโยบายที่จะทำ เป็นสิ่งที่ประชาชนชาวโคราชชื่นชอบจริงๆ
ทั้งนี้ พรรคชาติพัฒนามีจุดยืนว่าจะทำการเมืองอย่างไม่ขัดแย้ง ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพื่อสร้างบรรยากาศการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต้องการเล่นการเมืองแบบมีกติกา ไม่ต้องการให้การเมืองไปสร้างปัญหากับเศรษฐกิจ การเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ละพรรคก็เสนอนโยบายออกมาหลากหลาย ซึ่งทุกเวทีการดีเบตจะเห็นว่ามีประชาชนให้ความสนใจฟังเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากถึง 80% ก็แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความตื่นตัวในเรื่องการเมืองมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่จะถึงนี้ก็จะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์อีกแน่นอน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะมีความชัดเจนมากที่สุด ที่พรรคการเมืองทุกพรรคต้องยอมรับ เพราะเป็นความต้องการจากเสียงส่วนใหญ่ของคนในประเทศนั่นเอง ส่วนเรื่องพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น จากประสบการณ์ทางการเมืองของตน ถ้าจะให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ และมีฝ่ายค้านถ่วงดุลอำนาจอย่างเหมาะสม สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ พรรคฝ่ายรัฐบาลควรจะมี ส.ส.ประมาณ 300 คน กำลังดี ถ้ามากกว่านี้จะทำให้มีอำนาจมากไป จนพรรคฝ่ายค้านไม่สามารถไปถ่วงดุลอำนาจ หรือตรวจสอบได้ ถ้าน้อยกว่านี้รัฐบาลก็จะขาดเสถียรภาพ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีคนต่อไปว่าจะต้องการให้เป็นอย่างไรด้วย
“ส่วนการจับมือกับทุกพรรคในการร่วมเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งนั้น เราบอกแล้วว่าเราอยู่ตรงกลาง เพราะเราไม่ต้องการจะให้มีเงื่อนไขอะไรในทางการเมืองแล้วนำไปสู่การเพิ่มความขัดแย้ง ส่วนจะเป็นฝ่ายค้านจะเป็นฝ่ายรัฐบาล ถือว่าเป็นบทบาทหน้าที่ในสภาฯ ฉะนั้นเราไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรว่า เราจะปฏิเสธคนนั้นหรือจับมือกับคนนี้ ส่วนความถนัดของพรรคชาติพัฒนานั้น เราเป็นได้ทั้งนั้น ที่ผ่านมาเราก็เป็นรัฐบาลก็ทำความเจริญมาเยอะกับเป็นฝ่ายค้านเราก็ทำงานได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ก็แล้วแต่ผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร”