จากกรณีที่นายดี สิมตะมะ ประชาชน อำเภอ เสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา กล่าวหาว่าผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยซื้อเสียง
ล่าสุด นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ผู้กล่าวหาว่าพรรคภูมิใจไทยซื้อเสียง คือ นายดี สิมตะมะ อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 5 ตำบลเสิงสาง อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งระบุว่า ได้รับเงินจำนวน 3 พันบาท จากนายสมนึก คูณงูเหลือ และนายใบ เชิดชื่อ ให้ไปเลือกผู้สมัครเบอร์ 3 เขต 10 หรือนายพรชัย อำนวยทรัพย์ ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ ต่อมานายดี ได้พบกับเจ้าหน้าที่ทหาร จึงบอกว่ารับเงินจริง และได้ไปแจ้งความ แต่หลังจากนั้น เกิดสำนึกผิด นายดีจึงขอให้การใหม่
“ความจริงคือ นายดีรับเงินมา เพื่อปรักปรำนายพรชัย โดยนายสมนึก และนายใบที่นำเงินมาให้นายดีนั้น กระทำลงไปเพราะได้รับคำสั่งจากนายประยุทธ บัวประดิษฐ์ ที่เป็นหัวคะแนนให้นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้สมัครในพื้นที่ ของพรรคพลังประชารัฐ และเมื่อเราตรวจสอบลึกลงไปพบว่า นายประยุทธ เป็นสมาชิกตลอดชีพของพรรคพลังประชารัฐ นี่คือความเกี่ยวโยงกัน และเมื่อลงพื้นที่ไปหาความจริงจะพบว่าทั้งนายดีและนายประยุทธ ต่างเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียง อยู่หมู่ 5 อำเภอเสิงสางทั้งคู่ ผมมองว่าการใส่ร้ายผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ทำเป็นขบวนการ มีฝ่ายการเมืองและเจ้าหน้าที่ทหารเกี่ยวข้อง”
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า จากนี้ นายพรชัย เตรียมดำเนินคดีเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ตามความผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง ม.73(5) และ 143 หากจำกันได้ นายสุภรณ์ ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ เคยกล่าวหาว่านายพรชัย หาสมาชิกด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง ทำลายชื่อเสียงของพรรค และผู้สมัคร ซึ่งทางพรรคภูมิใจไทยได้ฟ้องกลับแล้ว คดีอยู่ในศาล กรณีนี้ คือเรื่องของคู่ขัดแย้งเดิม เราจะสืบสาวราวเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อจะได้รู้ว่า มีใครอยู่เบื้องหลังบ้าง
“พรรคมีบันทึก และมีคลิปคำสารภาพของนายดี นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงก่อนการเลือกตั้ง ขอ กกต.อย่าละเว้นหน้าที่ ส่วนบทสรุปจะไปถึงขั้นตัดสิทธิ์ใคร หรือยุบพรรค ต้องลุ้นกันว่ากฎหมายไปถึงจุดนั้นหรือไม่”
ขณะที่นายพรชัย ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า นายประยุทธมีความใกล้ชิดกับนายสุภรณ์ ในฐานะเลขาส่วนตัว เมื่อครั้งนายสุภรณ์ ร้องเรียนตนคราวที่แล้ว จนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง นายประยุทธ ก็ตามนายสุภรณ์ไปให้การด้วย หวังว่าสังคมจะให้ความสำคัญกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมถึงให้ความเป็นธรรมกับตน เพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม