มติชนออนไลน์ เปิดเผยข้อมูล จากการสำรวจของ mClinica ในหัวข้อ “เภสัชกรไทยอยากขายหรือจ่ายยาที่มีส่วนผสมของกัญชาหรือไม่ หากถูกกฎหมาย” พบว่าประมาณครึ่งหนึ่งของเภสัชกรชุมชนเต็มใจที่จะจ่ายยาที่มีส่วนผสมของกัญชา และนั้นทำให้มูลค่าของยาที่มีส่วนผสมของกัญชาทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากถึง 50 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2568 และจากมูลค่าการซื้อขายที่สูงขึ้นทำให้ในอนาคตอาจเห็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีสำหรับร้านขายยา โดยเฉพาะร้านขายยา
ทั้งนี้ พบว่าร้านขายยาบริเวณพื้นที่ห่างไกลในประเทศไทยต้องการที่จะขายยาที่พัฒนามาจากกัญชา จากช่วงข่าวที่ผ่านมาในเดือนพฤศจิกายน รัฐบาลประเทศไทยได้เปลี่ยนกฎหมาย ให้กัญชาสามารถขายได้อย่างถูกกฎหมาย โดยเฉพาะในทางการแพทย์ภายในเดือนมกราคม 2562 โดยกฎหมายใหม่นี้ กัญชาจะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ยาที่สามารถใช้ในการทดลอง ยาพื้นบ้านที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม นอกจากนี้สามารถใช้รักษาโรคลมชักที่รุนแรง ลดความเจ็บปวดและคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยโรคมะเร็ง
อีกทั้ง เภสัชกรในพื้นที่ห่างไกลสนับสนุนการทำให้ยาที่มีส่วนผสมของกัญชาเป็นยาที่ถูกกฎหมายและสามารถซื้อขายได้มากกว่าเภสัชกรชุมชนในแถบเมืองใหญ่ อาจเป็นเพราะเภสัชกรชุมชนในแถบเมืองใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่มีการบริการทางสาธารณสุขอย่างทั่วถึง เมื่อเจ็บป่วยประชาชนสามารถเข้าถึงยาได้จากโรงพยาบาลทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ทำให้การขายยาที่มีส่วนผสมของกัญชาอาจไม่ได้เพิ่มกำไรมากนัก
ขณะที่เภสัชกรในพื้นที่ห่างไกล อาจเพิ่มยอดขายและกำไรได้มากกว่าเนื่องจากข้อจำกัดในการเข้าถึงการบริการทางสาธารณสุข จำนวนคลินิก หรือโรงพยาบาลที่ให้บริการมีน้อยกว่า เมื่อประชาชนเกิดปัญหาสุขภาพ ร้านยาจึงเป็นทางเลือกที่สำคัญ ดังนั้นเภสัชกรที่ให้บริการในพื้นทีห่างไกลจึงมีความต้องการ สิทธิในการขายยาที่มีส่วนผสมของกัญขาอย่างถูกกฎหมาย เพราะเชื่อว่าการขายนี้จะเพิ่มยอดขาดและกำไรให้มากขึ้นได้
นอกจากนี้ การที่เภสัชกรในพื้นที่ห่างไกล เห็นด้วยให้มีการยาที่มีส่วนผสมของกัญชามากกว่า อาจเกิดจากการที่ได้เห็นปัญหาการเสพกัญชาอย่างผิดกฎหมายของประชาชนในบริเวณนั้น ๆ จึงอาจต้องการให้ประชาชนหันมาใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย ถูกต้องและปลอดภัย พร้อมทั้งได้รับการควบคุมและคำแนะนำที่ถูกต้อง
ที่สำคัญ 79% ของเภสัชกรชุมชนทั่วประเทศไทยคิดว่ายาที่มีส่วนผสมของกัญชาสามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ และนี่ถือเป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเรื่องกัญชาของรัฐบาล และการเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อการขับดันเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะในวงการยา
ขอบคุณข้อมูล มติชนออนไลน์