นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ว่า ขั้นตอนการเลือกเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ยืนยันว่าในครั้งนี้จะไม่มีการทำไพรมารี่โหวต โดยจะให้ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมใหญ่วิสามัญในวันที่15 พ.ค.นี้ คนละ 15 นาที ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคที่หัวหน้าพรรคจะเป็นผู้เลือกนั้น ในส่วนของตนมีบุคคลที่จะมาเป็นเลขาธิการแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอให้รอเวลาที่เหมาะสมก่อน
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับบุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นตนหรือใครจะต้องดำเนินการสร้างความร่วมมือกับพรรคการเมืองอื่นๆทั้งองคาพยพ และมีการบ้าน 5 ข้อใหญ่ เพื่อฟื้นฟูพรรค โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ที่การเลือกครั้งนี้เราได้ ส.ส.น้อยมาก และภาคอื่นๆ ที่ได้ ส.ส.น้อยลง รวมทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ไม่ได้ ส.ส.เลย ซึ่งพรรคจะต้องเข้าไประดมสรรพกำลังอย่างเต็มที่และทำให้ภารกิจลุล่วง พร้อมทั้งฟื้นฟูพรรคให้ได้ความยอมรับกลับมาเหมือนที่ผ่านมา
“ไม่ว่าจะเป็นผมหรือใครมาเป็นหัวหน้าพรรค จะมีวิธีการดำเนินการต่างๆอยู่แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ที่พรรคเพื่อไทยยังได้รับความนิยมอยู่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะต้องทุ่มเทกันให้มากขึ้น รวมทั้งนโยบายที่ออกมาต้องให้ตรงตามความต้องการของประชาชนชาวอีสาน รวมถึงจุดยืนทางการเมืองด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะให้ประชาชนตัดสินใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะถ้าพรรคได้รับโอกาสจากประชาชนในภาคอีสานมากกว่าที่ผ่านมา ก็จะสามารถทำให้พรรคมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะเป็นพื้นที่นี้มีจำนวน ส.ส. 1 ใน 3 ของส.ส.ทั้งประเทศ”นายจุรินทร์กล่าว
เมื่อถามว่าการตัดสินใจจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)หรือไม่จะมีอิทธิพลให้สมาชิกตัดสินใจเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ประธานคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์เลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เคยพูดในที่ประชุมพรรคว่าอยากให้แยกระหว่างการร่วมรัฐบาลกับการเลือกหัวหน้าพรรคออกจากกัน เพราะคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)ไม่ได้มีแค่การจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่ยังมีภารกิจอื่นๆอีกมาก ซึ่งกก.บห.พรรคชุดใหม่ และ ส.ส.ชุดใหม่ จะเป็นผู้พิจารณาในประเด็นนี้
ขอบคุณข่าว : มติชน
