เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ และแกนนำกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย (กตป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดตั้งรัฐบาลว่า พรรคเรายอมเสียตำแหน่งสำคัญให้พรรคร่วม ที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะกติกาที่สร้างความเสียเปรียบให้กับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และมีการวางระบบไว้เพื่อสืบทอดอำนาจคสช. ซึ่งระบบอยู่วางไว้ทำให้คสช. และพรรคที่สนับสนุนคสช. ได้เปรียบมาตั้งแต่ต้น เช่น กกต. อยู่ใต้อำนาจของคสช. ก็เลือกปฏิบัติ และทำตัวไม่น่าเชื่อถือโดยการนับคะแนนและคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงการมี ส.ว. 250 เสียงอยู่ในมือด้วย ตรงนี้ทำให้ได้เปรียบอย่างมากแต่ก็ยังไม่สามารถรวมเสียงส.ส.ได้เกิน 250 ได้โดยง่าย ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทย ยินยอมให้ตำแหน่งสำคัญแก่พรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลโดยการยอมไม่รับทั้งตำแหน่งนายกฯ และประธานสภา ก็เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ เพื่อเพิ่มโอกาสมากขึ้น
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้พรรคที่ตัดสินใจยากน่าจะมีอยู่เพียง 2 พรรค คือ พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งดูแล้วฝ่ายหลังน่าจะลำบากมากที่สุดเพราะหัวหน้าพรรคคนเก่าได้ประกาศไว้ว่าจะไม่เอาการสืบทอดอำนาจ แม้จะเปลี่ยนหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แต่สัญญาประชาคมก็ได้เกิดขึ้นกับประชาชนไปแล้ว จะมาอ้างว่าเป็นเรื่องของหัวหน้าคนเก่าไม่ได้ เพราะประชาชนตัดสินใจเลือกเพราะสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศออกมา แต่อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าประชาธิปัตย์เองก็รู้เหมือนกันว่าที่ ได้คะแนนน้อยลงอย่างมากนั้นเป็นเพราะแฟนๆของพรรคอยากเห็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ซึ่งถ้าให้ตนคิดแทนก็คงคิดไม่ออกว่า พรรคจะตัดสินใจอย่างไรเพื่อความอยู่รอด”