น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยจะมีการปรับเปลี่ยนรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กลับมาเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย อีกครั้งว่า ทางเราไม่สามารถก้าวล่วงการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยได้
แต่สำหรับพรรคอนาคตใหม่เอง เรายืนยันมาตลอดว่า แคนดิเดทของพรรคอนาคตใหม่ มีเพียงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค เท่านั้น แม้จะมีความกังวลว่า นายธนานร ถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวโดยศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะทำให้นายธนาธรไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น ขอย้ำอีกครั้งว่า คุณสมบัติของนายธนาธร มีศักดิ์และสิทธิ ในการดำรงตำแหน่งครบทุกปราการ และเราเชื่อว่า นายธนาธรเองเป็นนักการเมืองที่ได้รับความเชื่อถือจากประชาชน มากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ จึงมีความเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยมีมติเสนอชื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ กลับมาเป็นแคนดิเดทนายกจริง ทิศทางของทั้ง7 พรรคฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจ มีความเห็นอย่างไร นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า ต้องมีการพูดคุยถึงเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะยังมีเวลาอีกหลายวันกว่าจะถึงวันเลือกนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่า จะได้ข้อสรุปก่อนวันเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน
ถามต่อว่า ยังมีความหวังว่าพรรคภูมิใจไทย จะเปลี่ยนใจมาเข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ระบุว่า หลังการเลือกประธานสภาฯ เห็นได้ว่า เกมการเมืองเปลี่ยนไปพอสมควร ทั้ง พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ แต่เรายังหวังเสมอว่า แต่ละพรรคจะทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้กับประชาชน และเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะหลายวันที่ผ่านมีการวิพากษวิจารณ์กันเยอะว่า ประชาชนเดือดร้อน เศรษฐกิจตกต่ำ
เราพยายามบอกมาตลอดว่า อย่าสิ้นหวัง ทางพรรคพยามเต็มที่แล้วในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด ตอนนี้โต๊ะเจรจายังคงเปิด ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลโดยฝ่ายสืบทอดอำนาจ จะสามารถแก้ปัญหา ได้ดีที่สุด หากเป็นฝั่ง พปชร. ทุกคนก็เห็นแล้วว่า เสียงปริ่มน้ำ ลำพังแค่การเลือกประธานสภา ก็กินเวลาไป 2 วัน เพราะฉะนั้นการออกกฎหมายสำคัญ อย่าง พรบ.งบประมาณ หรือนโยบายที่ต้องเร่งออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนจะต้องใช้เวลาอีกเท่าไร นั่นคือสิ่งที่เรากังวล
“ทางเราไม่สบายใจที่เห็นคุณเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ออกมาพูดว่า หากสถานการณ์วุ่นวาย และ ส.ส.ไม่สามารถเลือก นายกรัฐมนตรีได้ ส.ว.จะต้องเข้ามาช่วยจัดการ ซึ่งต้องย้อนไปว่า ปัญหาที่คาราคาซังอยู่ จนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เป็นเพราะกลไกการสืบทอดอำนาจของคสช. ที่ชื่อวุฒิสภา ส่งผลให้การตัดสินใจของพรรคการเมืองบิดเบี้ยวไปหมด ขณะที่ ส.ว.เองก็ยังมีปัญหาในเรื่องความชอบธรรมหากพวกท่านต้องการแก้ปัญหาบ้านเมืองจริงๆ สามารถทำได้โดย การให้ท่านอยู่เฉยๆไม่ต้อง ออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี และปล่อยให้การเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นหน้าที่ของ ส.ส.” โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ระบุ