นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ ส.ส.สตูล พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า ขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ให้ความสำคัญนโยบายของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 12 ข้อที่ได้บรรจุไปในนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาค;ามเดือนร้อนของพี่น้องชาวประมง
ปัญหาของชาวประมง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สธ. ได้ลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหานี้เองโดยตรง และพรรคภท. ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างมาก ในส่วนของปัญหาของชาวประมง ในปี 2558 สหภาพยุโรป(EU) มีประกาศให้ใบเหลืองกับประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการดูแลและไร้การควบคุม ซึ่งรัฐบาลในขณะนั้น ต้องออกมาแก้ไขปัญหาของชาวประมงอย่างเร่งด่วน เพราะถ้ายังไม่แก้ปัญหาเหล่านี้ประเทศไทยก็ไม่สามารถส่งออกอาหารทะเลไปยังสหภาพยุโรปได้
ต่อมานายวรศิษฎ์ กล่าวว่า ในส่วน ปี2562 สหภาพยุโรปประกาศปลดใบเหลืองให้กับประเทศไทย ถือว่าสำเร็จในการแก้ปัญหาเรื่องประมงของคนไทย ทางด้านการแก้ปัญหาครั้งนี้ ชาวประมงต้องประสบพบเจอกับความเจ็บปวดและปัญหาอีกหลายอย่าง
ทุกวันนี้ชาวประมงที่ยังเหลืออยู่พบายามทุกวิถีทางที่จะทำประมงแบบถูกกฎหมาย ตนกล่าวว่าไม่มีใครที่อยากทำประมงแบบผิดกฎหมายเพราะมีโทษหนักมาก ค่าปรับถึงหลักแสน หลักล้าน หรืออาจจะมีโทษจำคุกด้วย แต่ทราบมั้ยว่าชาวประมงเหล่านี้ประสบปัญหาที่หนักมาก ไม่ว่าจะเป็นการแบกรับต้นทุนไม่ไหว ปัญหากฎหมายต่างๆที่ออกมาเกินความจำเป็น เหตุเหล่านี้ทำให้ปัญหาสภาพชีวิตของพี่น้องชาวประมงรวมไปถึงปัญหาของสภาพแรงงาน ปัญหาการจดทะเบียนเรือ ปัญหาพื้นที่ทำกินของชาวประมงชายฝั่งและชาวประมงพื้นบ้าน
นายวรศิษฎ์ ได้เสนอต่อประธานสภาผ่านไปยังนายยกฯ ว่า ในการแก้ปัญหาตนและเพื่อนสมาชิกพรรค ภท. ในภาคใต้ การแก้ปัญหาควรมีการแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วน และระยะยาว
1.ในระยะเร่งด่วนควรที่จะแก้ปัญหาในเรื่องของภาคแรงงาน ซึ่งปัจจุบันมีการขาดแรงงานการทำประมงเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการแก้ไขกฎหมายในบางข้อ ตนอยากฝากผู้ที่เกี่ยวข้องกับชาวประมงเข้ามามีส่วนร่วมในการออกกฎหมายฉบับนี้ด้วยและมั่นใจว่าจะได้กฎหมายที่มีคุณภาพ
2.ในการแก้ปัญหาระยะยาว ตนกล่าวว่า ควรที่จะมีการตั้งสภาชาวประมงแห่งชาติ เพื่อใช้ในการปรึกษาหารือ กำหนดแนวทาง รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับรัฐบาล ซึ่งประกอบไปด้วยบุคคลากรในภาคต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องกับพี่น้องชาวประมง นอกจากนั้นควรที่จะตั้ง กองทุนอนุรักษ์ทะเลและพัฒนาประมงไทย ซึ่งกองทุนนี้ต้องช่วยเหลือและดูแลพี่น้องชาวประมงที่เกิดความเดือดร้อนอีกทั้งการส่งเสริมการทำประมงอย่างยั่งยืน นาวรศิษฎ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจถ้ารัฐบาลให้ความสนใจกับพี่น้องชาวประมง และสามารถจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้กับชาวประมงได้ควบคู่กับการทำประมงแบบถูกต้องตามกฎหมาย และยั่งยืน