“รัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับผลงาน” เป็นความเชื่อมั่นของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่พูดไว้กับหลายสื่อ
แนวคิดดังกล่าวสะท้อนแนวทางของพรรคภูมิใจไทย ในฐานะของพรรคปฏิบัติการ ซึ่งชัดเจนว่าพรรคภูมิใจไทย และนายอนุทิน ต้องการใช้แนวทางดังกล่าวสร้างภาพจำของพรรคขึ้นมาใหม่ เป็นพรรคทางเลือกที่ 3 ในขั้วการเมืองแบบ 2 ขั้ว
เช่นนี้แล้ว จึงเห็น “คนภูมิใจไทย” ทำงานหนักเป็นพิเศษ และสามารถสร้างความถูกอกถูกใจให้กับประชาชน สะท้อนผ่านผลซูเปอร์โพลล์ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ประชาชน 40% เทใจให้กับนโยบายยกระดับ อสม.และกัญชาทางการแพทย์ มากเป็นอันดับ 1 ในบรรดาพรรคร่วม ซึ่งมีนโยบายรวมกันมากกว่า 20 นโยบาย
ผลงานของพรรคภูมิใจไทย ชัดเจนว่าคือความคืบหน้าของนโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ ภายใต้ความรับผิดชอบของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ที่วันนี้ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตนีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ที่ล่าสุด ถึงขั้นปลดล็อกกฎหมาย ให้ “หมอพื้นบ้าน” กลับมาเป็นหนึ่งในหนทางรักษาโรคอย่างถูกกฎหมาย เอาใจสายแพทย์ทางเลือก
จากนั้น ปรากฎข่าวดี เมื่อองค์การเภสัชกรรม สามารถผลิตสารสกัดกัญชา เพื่อใช้ทางการแพทย์ได้เอง เป็นจุดเริ่มต้น การนำกัญชามาใช้รักษาประชาชนอย่างจริงจัง
ขณะเดียวกัน ยังเปิดโอกาสให้นายเดชา ศิริภัทร ผอ.มูลนิธีข้าวขวัญ มาร่วมผลิตน้ำมันกัญชากับภาครัฐ ส่งผลให้กัญชากลายมาเป็นความหวังในการรักษาโรคอีกทางหนึ่ง
ระหว่างนั้น มีปัญหา ร.พ.ศูนย์ จ.สุรินทร์ ขาดน้ำอุปโภค บริโภค และนายอนุทิน บินด่วนแก้ปัญหาทันที นอกจากนั้น ยังเร่งพัฒนานโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งตั้งเป้าเรื่องลดความแออัดในโรงพยาบาล และพัฒนาศักยภาพ อสม.ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่พูดเอาเท่ แต่ประชุมเคร่งเครียดกันทุกสัปดาห์ โดยบางเรื่อง อาทิ การจ่ายยานอกโรงพยาบาลนั้น มีการนำร่องปฏิบัติไปแล้ว
นี่คือผลงานของ “หมอหนู” หลังรับตำแหน่งไม่ถึง 1 เดือน
ด้านรัฐมนตรีคมนาคมคนใหม่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่น้อยหน้า ปั่นผลงานให้ประจักษ์อยู่เรื่อยๆ
ทั้งการแก้ปัญหารถติดถนนพระราม 2 ส่งผลให้ปริมาณรถที่หนาแน่น ลดลงไปประมาณ 40% ก่อนลงพื้นที่ถนนวิภาวดี จัดการระบบระบายน้ำใหม่ แก้ปัญหาฝนตก น้ำท่วม และรถติด
ในส่วนของถนน 4 เลนทั่วประเทศ เล็งแก้กฎหมาย ให้ใช้ความเร็วได้สูงสุด 120 กม./ชั่วโมง อันเป็นไปตามศักยภาพของรถ ณ ปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ยังเรียกทีมประชุมด่วน หารือกลุ่มแท็กซี่ ที่มาร้องขอชึ้นค่าโดยสาร ขณะที่กลุ่มรถตู้ นายศักดิ์สยาม เคลียร์ใจกรณี ที่มีกฎแต่การณ์ก่อนว่า ต้องเปลี่ยนรถตู้เป็นไมโครบัส โดยยกเลิกกฎดังกล่าว
เล่นเอา “บางคน” หัวเสีย เพราะอยู่เบื้องหลังกลุ่มหนุนไมโครบัส และซื้อรถมารอแล้วหลายพันคัน ประเด็นดังกล่าวไม่รู้ว่านายศักดิ์สยามรู้หรือไม่ แต่นับว่าการตัดสินใจที่เกิดขึ้น ก็สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อย ที่สำคัญ ยังสะท้อนแนวคิดเรื่อง THAILAND FIRST กินของไทย ใช้ของไทย เพราะรู้กันดีว่ารถตู้ผลิตในไทย แต่ไมโครบัสต้องนำเข้า
ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ เดินเครื่องเต็มที่ ทำหน้าที่เป็นทูตประเทศไทย ลงพื้นที่ไปสปีคอิงลิชกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ฟื้นความเชื่อมั่นกวักมือเรียกทัวริสต์เข้าประเทศ
อนาคตแว่วว่า ตั้งเป้าใช้กัญชา สนับสนุนด้านการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ บูรณาการนโยบายชองพรรค สร้างจุดแข็งให้ประเทศไทย ล่าสุด ลุย Work Shop กระบี่ ตั้งเป้าปั้นท่องเที่ยวไทย ให้ปังใน 3 เดือน และยืนยันชัดเจนพร้อมสนับสนุน Event ระดับโลก ให้มาจัดที่ไทย
ล่าสุด รมต.ท่องเที่ยวฯฟิตจัดได้ระดมสมองหน่วยงานในสังกัด จัดWorkshop ที่กระบี่ มุ่งสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนผ่านการท่องเที่ยวตั้งเป้าเห็นผล 3เดือน ทั้งหนุน การให้ไทยเป็นเจ้า Event อาทิ โมโตจีพี ,วิ่งเทรล หรือกระทั่งอีสปอร์ต พร้อมไปกับพัฒนาให้กีฬาเป็นอาชีพ
นอกจากที่กล่าวมา ยังมีผลงานของ “คนภูมิใจไทย” อีกมาก อาทิ การตั้งเป้ายกเลิกสารพิษอันตรายในสิ้นปี ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์, การกู้วิกฤติโรงเรียนเอกชน โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวกนกวัลย์ วิลาวรรณ
เพียงเท่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมพรรคภูมิใจไทย จึงกลายเป็นความหวังของประชาชน ชี้ชัดผ่านผลโพลล์เบื้องต้น ที่อาจจะหมายถึงเป็น “ตัวความหวัง” ของ “รัฐบาลบิ๊กตู่” เช่นกัน
Ringsideการเมือง รายงาน