นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยกับ “ไทยโพสต์” ถึงความคืบหน้าการตั้งศูนย์เฟคนิวส์เซ็นเตอร์ว่า อยู่ระหว่างรวบรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เริ่มมีรายชื่อหน่วยงานและพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการไปบ้างแล้ว และไม่จำเป็นต้องกระทรวงดีอีทำก็ได้ ถ้ามีหน่วยงานอื่นที่คล่องตัวมากกว่า บางประเทศเป็นองค์กรกลางขึ้นมา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน ภาคประชาชน เข้ามามีส่วน ไม่อย่างนั้นคนจะมองว่าภาครัฐใช้อำนาจ อาจไม่โปร่งใสและไม่เป็นกลาง สำคัญการทำงานของศูนย์ต้องรอบคอบ ดำเนินการได้เร็ว ทำแล้วเกิดน่าเชื่อถือมีหลายภาคส่วนเข้ามาเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ดังนั้น อยากให้ประชาชนอดใจรออีกนิด อาจตั้งได้ก่อน 3 เดือนก็ได้ โดยภายใน 10 วันนี้ อาจได้เห็นความคืบหน้ารูปแบบก่อนเปิดศูนย์อย่างเป็นทางการ อย่างช่องทางการตรวจสอบที่ประชาชนสามารถส่งข้อมูลหรือเข้ามาตรวจสอบ ผ่านระบบต่างๆ อาทิ เพจเฟซบุ๊กหรือไลน์ ซึ่งอยู่ระหว่างทำโปรแกรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯได้มอบนโยบายอย่างไรบ้างเห็นได้มีโอกาสได้พูดคุยกับนายกฯ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองทราบดี ระบบโซเชียลมีเดียควบคุมลำบาก เป็นปัญหาทั่วโลก ขณะที่นายกฯได้ย้ำให้หาทางแก้ไข หาหน่วยงานที่มีความรู้ และมีสายข่าวหลายๆกลุ่มมาช่วยกัน โดยเฉพาะต้องเน้นให้ความรู้กับเยาวชนให้มากๆไม่ปล่อยให้สร้างความเข้าใจที่ผิดๆอย่างยุโรปถึงขั้นมีการกำหนดหลักสูตรสอนให้เยาวชนรู้จักวิเคราะห์ มีสติก่อนเชื่อก่อนแชร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำต่อไป เพราะการสร้างข่าวที่ไม่จริงบ่อยๆ โดยที่ใครอยากพูดอะไรก็ได้โดยไม่มีใครรับผิดชอบ ถ้าเชื่อกันไปหมดก็จะกระทบทุกมิติ ไม่ใช่แค่การเมืองเท่านั้น ทั้งความมั่นคง ความสามัคคี ความคิด ความอ่านของประชาชน
นายพุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้กระทรวงดีอีไม่ได้ทำเพียงแค่เรื่องข่าวปลอมอย่างเดียว แต่กำลังหาวิธีในการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการเก็บข้อมูล สถิติ ตลอดจนช่องทางการขาย จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน