นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณี พรรคเล็ก ปั่นป่วน ข่มขู่ออกจากการร่วมรัฐบาล แม้ในที่สุดจะมีเพียง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เท่านั้นที่ออกมาประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ ว่า ส.ส.ปัดเศษ ที่มาด้วยความน่ากังขา จากกติกาที่น่ากังขา เพื่อร่วมรัฐบาลที่น่ากังขา ก็มักจะมีปัญหาตามมามากมาย และทั้งหมดนี้ไม่ได้สะท้อนว่าพรรคเล็กดังกล่าวมีความเข้มแข็งและมีอำนาจต่อรองทางการเมือง แต่มันแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของพรรคแกนนำอย่างพลังประชารัฐมากกว่าที่ไม่สามารถบริหารจัดการเรื่องนี้ได้ อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่มพรรคเล็กออกมา ตนมองไม่เห็นประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ เป็นเพียงเกมต่อรองอำนาจ ผลประโยชน์ของพวกตัวเองเท่านั้น โดยใช้ข้ออ้างเดิม ๆ คือ เพื่อประชาชน ซึ่งบางครั้งตนเข้าใจได้ว่าในการทำงานทางการเมือง เป้าหมายอย่างหนึ่งคือต้องการมีตำแหน่งแห่งที่เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆที่เคยหาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชาชน แต่หากมันมากเกินไปจนเกินงามก็คงหนีไม่พ้นที่จะถูกสังคมตั้งคำถามได้
นายรยุศด์ กล่าวอีกว่า ตนขอชื่นชมหัวหน้าพรรคเล็กบางพรรค ที่มีความสามารถในการอ่านกระแสและทิศทางสังคมได้เป็นอย่างดี จากแรกๆ ที่เริ่มสร้างตัวตนจากเรื่องที่ทำให้คนวิพากษ์วิจารณ์เสียหาย ทำให้ดังในชั่วข้ามคืน เมื่อเข้าสภาฯ ก็เริ่มปรับตัว ตั้งใจทำหน้าที่เพื่อประชาชน ทำให้ภาพลักษณ์บวกขึ้นมา และพอมาถึงเรื่องเข้า ๆ ออก ๆ จากการร่วมรัฐบาล ฟังผ่าน ๆ ค่อนข้างมีเหตุผลที่ดีทีเดียว แต่จะดีกว่านี้ ถ้านี่ไม่ใช่ผลลัพธ์จากการต่อรองผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว และจะมาอ้างว่าร่วมรัฐบาลเพื่อประชาชน และออกจากการร่วมรัฐบาลเพื่อประชาชน มันดูจะย้อนแย้งไปหน่อย อย่างไรก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ไม่อยู่เป็นเครื่องมือให้รัฐบาลต่อ ออกมาเป็นเครื่องมือ เป็นปากเสียงให้ประชาชนดีกว่า เพราะในทางการเมือง ประชาชนก็มักจะให้โอกาสเสมออยู่แล้ว ขอเพียงแต่อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนไปมาอีก และอย่าให้สังคมตั้งคำถามว่าการประกาศออกมาเป็นฝ่ายค้านอิสระครั้งนี้ เพราะประเมินแล้วว่ากระแสความเชื่อมั่นของรัฐบาลที่กำลังเริ่มตก หากร่วมไปอย่างไรก็คงพังในไม่ช้า จึงขอออกมาก่อนแบบหล่อ ๆ ดีกว่า ซึ่งตนหวังว่าคงจะไม่เป็นเช่นนี้ ไม่งั้นอนาคตการเมืองคงจบไม่สวยแน่นอน หากนึกถึงแต่เรื่องตัวเองมากกว่าสิ่งที่จะทำประโยชน์ให้กับประชาชนและส่วนรวม