เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2562 เวลา 9.00 น. ณ วิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดโครงการค่ายอบรมพัฒนาบุคลิกภาพผู้เรียน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ขั้นพื้นฐานสู่ภาคอาชีวศึกษาและการมีงานทำ โดยมีนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นายศรีชัยพร ประชาธรรม เลขาธิการ กศน. ผู้บริหาร ศธ. ให้การต้อนรับ
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งว่า กระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน กศน. อย่างรอบด้าน ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับภาพลักษณ์ของผู้เรียน กศน. ที่มีมิติแตกต่างกัน เพราะเรื่องของบุคลิกภาพเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับการทำงาน การพบปะเมื่อแรกเห็นจะเกิดความประทับใจกันนั้น ยังต้องอาศัยทั้งทักษะการวางตัว และการรักษาภาพลักษณ์อย่างมืออาชีพ การพัฒนาบุคลิกภาพจึงเป็นสิ่งที่ท้าทาย ของผู้เข้ารับการอบรม ทั้ง 440 คน ที่ได้รับโอกาสอันดีครั้งนี้ ซึ่งหวังว่าหลังจากผ่านการอบรมแล้ว จะได้นำความรู้ ทักษะจากการเรียนรู้ด้วยการฝึกปฏิบัติ หรือประสบการณ์ดี ๆ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเอง
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะส่งเสริมการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ให้เป็นภาษาที่สองรองจากภาษาไทย รวมทั้งภาษาประเทศเพื่อนบ้าน พร้อม ๆ ไปกับการเร่งพัฒนาครูซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนการสอนด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการ โดยจะใช้งบเหลือจ่ายจากปีงบประมาณ 2562 เพื่อให้ทันการเรียนการสอนในเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2563
“ขอให้ผู้เรียน กศน.จงภาคภูมิใจในตัวเอง และมุ่งมั่นตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ เพราะเราเป็นกำลังคนที่สำคัญของประเทศ และการศึกษาก็เป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศ โดยที่ผ่านมา มีผู้เรียน กศน. แล้วประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นจำนวนมาก อาทิ คุณสุนทร วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บิดาของ รมช.ศึกษาธิการ ซึ่งได้รับโอกาสเรียน กศน. ทำให้มีงานทำและได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น เป็นต้น ดังนั้นขอให้ทุกคนมั่นใจในตัวเอง และเรียนรู้ทุกอย่างด้วยความสุข” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว
นอกจากนี้ นางกนกวรรณ ยังเปิดเผยผ่าน มติชน ถึงการลงพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีว่า ได้เปิดโครงการขับเคลื่อนการดำเนินงาน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ในจังหวัดปราจีนบุรีและพื้นที่ภาคตะวันออก โดยได้มีการพูดคุยกับนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจัดหวัดปราจีนบุรี เตรียมผลักดันให้จังหวัดปราจีนบุรี เป็นหนึ่งในกลุ่มจังหวัดระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออกหรืออีอีซี เพราะถือว่ามีความพร้อม ทั้งภาคอุตสาหกรรม และสถานศึกษา ที่จะมารองรับการผลิตแรงงานเพื่อตอบสนองความต้องการของพื้นที่และความต้องการของประเทศ
“เมื่อดิฉันได้รับมอบหมายให้เข้ามาดูแลการศึกษา ก็คิดว่าจะผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้เป็นอย่างมาก เพราะจังหวัดปราจีนบุรี มีทั้งสถานศึกษา และอุตสาหกรรมรองรับ ทั้งโซนกรีนอุตสาหกรรม และเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ข่าวว่า บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่จะย้ายฐานการผลิตมาที่จังหวัดนี้ จึงคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี ทั้งนี้ได้มีการหารือกับกลุ่มจังหวัดอีอีซีในเบื้องต้นแล้ว และได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ระหว่างนี้จึงได้เตรียมแผนการดำเนินงานเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)รับทราบและอนุมัติต่อไป” นางกนกวรรณกล่าว
นางกนกวรรณ กล่าวต่อว่า ในส่วนของสถานศึกษาที่จะมารองรับการผลิตกำลังคนนั้น จังหวัดปราจีนบุรี มีทั้งสถานศึกษารัฐและเอกชน รวม 7-8 แห่ง ทั้งอาชีวศึกษา มหาวิทยาลัย และยังมีการเรียนการสอนในระบบกศน. ซึ่งหากได้รับอนุมัติให้เป็นหนึ่งในกลุ่มจังหวัดอีอีซี ก็พร้อมจะจัดการเรียนการสอนในระบบทวิภาคี ประสานภาคอุตสาหกรรมเข้ามาช่วยสอน ฝึกประสบการณ์ทำงาน เชื่อว่า จะประสบความสำเร็จขณะที่ผู้เรียน เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วก็จะมีงานทำทันที