สีหน้าเคร่งขรึมยามทำงาน คือภาพสะท้อน “บุคคลิก” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ชื่อ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” อดีตนักธุรกิจด้านพลังงาน ที่ผันตัวมาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน
ถึงปัจจุบัน “รัฐมนตรีพิพัฒน์” ยังเป็นคนพูดน้อย แต่ไม่ใช่ปัญหาในการทำงาน เพราะถึงจะพูดไม่มาก แต่สิ่งที่สื่อสารออกไปคือการพูดตรงเป้า เข้าประเด็น
วันนี้ การท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องจักรด้านเศรษฐกิจที่รันได้ “สมูท” ที่สุด หน้าที่ของ “รมต.พิพัฒน์” มิใช่เพียงบำรุงรักษาเครื่องจักรตัวนี้ แต่ต้องพัฒนาการทำงาน เพื่อทดแทนความเสื่อมของเครื่องจักรตัวอื่น จึงไม่น่าแปลกใจ หาก “รมต.พิพัฒน์” จะลุยทำงานหนักแต่แต่ 24 ชั่วโมงแรกที่รับตำแหน่ง
แถมมีงานท้าทายเกิดขึ้นแทบจะทันที เมื่อเกิดเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ ทำลายความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว ซึ่งท่านรัฐมนตรีฯ ต้องลงพื้นที่แบบขึ้นเหนือลงใต้ใน 48 ชั่วโมง ฟื้นความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
ล่าสุด “รัฐมนตรีท่องเที่ยว” ตั้งหลักได้แล้ว ถึงเวลาที่จะยกระดับการท่องเที่ยวไทย ซึ่งตามข่าว ชัดเจนว่านายพิพัฒน์ ให้ความสำคัญกับการดึงอีเว้นท์ด้านกีฬาเข้ามาจัดในเมืองไทย เพราะ “อีเว้นท์” ทั้งหลาย มิใช่ดึงเม็ดเงินจากคนไทย แต่ยังดึงนักท่องเที่ยวให้มาที่ประเทศไทยด้วย
และ “อีเว้นท์” ระดับโลก จะทำให้ชื่อของประเทศไทย กระฉ่อนสู่นานาชาติ เรียกว่ายิงปืนนัดเดียว ได้นกหลายตัว
28 สิงหาคม นายพิพัฒน์ ตอกย้ำแผนงาน เขาระบุกับนักข่าวว่า สำหรับเรื่องกีฬาระหว่างประเทศเน้นให้ไทยจัดกีฬาระดับโลก รวมทั้งส่งเสริมนักกีฬาไทยสู่ระดับโลก ร่วมกันผลักดันการท่องเที่ยวโดยใช้กีฬาเป็นแรงขับเคลื่อน รัฐบาลอยากเห็นคนไทยออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ ภาครัฐจะสร้างนักกีฬาระดับแชมป์ เป้าหมายคือ คนไทยออกกำลังกายเพิ่มเติม นักกีฬาประสบความสำเร็จมากขึ้น บุคลลากรด้านกีฬามีมาตรฐานเพิ่มขึ้น
ในขณะที่การเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ประจำปี 2562 เป็นปีที่ 2 ในสัญญาแรก 3 ปี ซึ่งเราจะเซ็นต่อไปอีก 5 ปี เวลานี้นำเสนอให้รัฐบาล ช่วยค่าใช้จ่ายเรื่องลิขสิทธิ์ 2 ใน 3 จาก 1 ใน 3 ดูความสำเร็จมีผู้เข้าชมมากเหมือนเดิม โดยเตรียมจะนำเรื่องนี้ขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
ในปีหน้านั้นมีแผนการที่จะจัดการแข่งขันวิ่งเทรล โดยจะจัดให้เป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ รวมถึงการจัดการแข่งขันอีสปอร์ตอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าเยาวชนไทยได้ให้ความสนใจในกีฬาชนิดนี้เป็นอย่างมาก ในเบื้องต้นได้พยายามหาแนวทางว่า ทำอย่างไรให้เยาวชนไทยได้เดินในแนวทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่แค่การเล่นเกม แต่จะต้องมีวินัยในการเล่นเกมเพื่อเป็นนักกีฬาอีกด้วย
ขณะที่เรื่องฟุตบอลโลก ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับชาติอาเซียน นายพิพัฒน์ ระบุว่า ได้หารือกันเบื้องต้นกับชาติอาเซียน และเริ่มสำรวจสถานที่ สำหรับสร้างสนามแข่งขันเพื่อให้เข้าเกณฑ์สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)
และไม่ใช่เพียงกิจกรรมกีฬา แต่นายพิพัฒน์ยังตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการจัดงานนิทรรศการทางธุรกิจที่โดดเด่นของทวีปเอเชีย
พร้อมตั้งเป้ารักษาอันดับ 1 ของอาเซียนและเป็นอันดับ 5 ในอันดับสูงสุดของภูมิภาคเอเชียด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจและการประชุม (ไมซ์)
นายพิพัฒน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า
“จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 40 ล้านคน สร้างรายได้ 3.37 ล้านล้านบาท”
นายพิพัฒนย์ ยังเดินหน้าทำงานต่อเนื่อง
แว่วมาว่าผลงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาภายใต้การกำกับดูแลของ “รมต.พิพัฒน์” กำลังจะเป็นหนึ่งในความหวังสำคัญ ในการพยุงชีพรัฐบาลชุดปัจจุบัน
Ringsideการเมือง