มติชน รายงานว่า นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ว่า ที่ประชุมได้หรือ กรณีค่ารักษาพยาบาลครูเอกชน ซึ่งระหว่างที่ลงพื้นที่เป็นเรื่องที่ได้รับการร้องเรียน เป็นอันดับแรก ถึงขั้นเรียกได้ว่า ขอร้องให้ปรับเพิ่ม เหตุเพราะครูเอกชนส่วนหนึ่งได้รับความเดือดร้อน ต้องใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลเกินกว่าเพดานที่กำหนด อาทิ กรณีเป็นโรคเรื้อรัง ร้ายแรง โรคไต โรคหัวใจ เป็นต้น ทำให้มีครูเอกชนหลายราย ลาออกไปใช้สิทธิ ประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทบต่อขวัญกำลังใจของครู ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติปรับเพิ่มเพดานค่ารักษารักษาพยาบาลครูเอกชนจากเดิมปีละ 100,000 บาท เป็น 150,000 บาทต่อปี มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2563 สำหรับครูที่ลาออกไปใช้สิทธิสวัสดิการบัตรทอง ก็สามารถของกลับเข้ามาใช้สิทธิของกองทุนฯ ได้
นายประสงค์ ชาญวิทย์การ ผู้อำนวยการกองทุนฯ กล่าวว่า เดิมกองทุนฯ มีการขาดทุนสะสม และในเดือนกันยายน ปี2562 คาดว่าจะขาดทุน 25 ล้านบาท แต่สช.ยังมีเงินที่รัฐบาลได้รับสนับสนุนปีละ 1,400-1,600 ล้านบาท ซึ่งจากเดิมกองทุนฯ จะขอเบิกจ่ายจากสช. เป็นรายเดือนแต่จากนี้จะขอให้สช. โอนเงินดังกล่าวมาให้กองทุนฯ บริหารจัดการเอง ซึ่งมีแผนจะนำไปลงทุนเพิ่มเติม จากเดิมที่เคยมีการลงในกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำอยู่แล้ว ประมาณ 16,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้ผลกำไรคืนเพิ่มขึ้นประมาณ 3% หรือปีละ 25 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายเป็นสวัสดิการให้กับครูเอกชน