เมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่พรรคอนาคตใหม่ ในการประชุม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรคประจำสัปดาห์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมพูดคุยและพบปะกับ ส.ส. โดยตอนหนึ่ง ได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานว่า สำหรับเหตุน้ำท่วม ทางพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ส.ส.แบบแบ่งเขตในพื้นที่ รวมถึงแบบบัญชีรายชื่อหลายๆ คนก็ได้เข้าพื้นที่ช่วยเหลืออย่างแข็งขัน เช่น นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส. เขต 1 จ.แพร่, นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.เขต 1จ.พิษณุโลก, นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ไปในพื้นที่ อ.เนินมะปราง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก, นายองค์การ ชัยบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไปช่วยพื้นที่ จ.มหาสารคาม, นายสุรวาท ทองบุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไปช่วยพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด นอกจากนี้ยังมีทีมงานจังหวัด รวมถึงอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคที่ทำงานอย่างเต็มทีมาก เช่น ว่าที่ ร.ต.ร่วมภูมิศักดิ์ พลเยี่ยม อดีตผู้สมัคร เขต 3 ช่วยเหลือในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่มีน้ำท่วมโรงเรียนอนุบาลโพนทอง ต้องมีการใช้เชือกขึงเข้าไปช่วยนักเรียนออกมา ทั้งนี้ ตนก็อยากจะขอให้ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทุกท่าน ได้ช่วยกันคนในไม้คนละมือ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ต้องประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้
นายธนาธร กล่าวว่า ขอบคุณ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่เข้าไปช่วยในพื้นที่ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันส่วนกลางพรรคอนาคตใหม่เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เรามีเจ้าหน้าที่คอยติดตามสภาวะอากาศอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ก็ได้มีการตั้งศูนย์แจ้งเรื่องร้องเรียนน้ำท่วม เมื่อวันที่1 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อประสานการเข้าไปช่วยเหลือ ให้กำลังใจพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งก็มีสายด่วน HOT LINE เบอร์โทร. 092-6253578 นอกจากนี้ ในวันที่ 5 กันยายนนี้ ตนเองพร้อมทีมงานพรรคอนาคตใหม่ จะไปเยี่ยมพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบน้ำท่วมในภาคอีสาน ทั้งนี้ แนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ทำให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากขึ้น เพื่อให้ท้องถิ่นได้จัดการกับทรัพยากรในพื้นที่ เช่น การเกิดภัยพิบัติ น้ำท่วม ไฟไหม้ ฯลฯ เพราะคนในท้องถิ่นย่อมรู้จักบ้านตัวเองดีที่สุด เหตุการณ์ฉุกเฉินต้องให้คนในท้องที่ร่วมจัดการ จะให้รอส่วนกลางสั่งการลงมาอาจไม่ทัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอบรมดังกล่าว ได้มีการเชิญ ส.ส. ซึ่งเดินทางไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ออกมาเล่าประสบการณ์การทำงาน พร้อมทั้งชี้แจงความต้องการของพื้นที่และการช่วยเหลือต่างๆ ให้เพื่อน ส.ส.ได้รับรับทราบด้วย