ผู้สือข่าวรายงานบรรยากาศงานประชาพิจารณ์ ที่พรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 7 กันยายน เป็นการฟังความเห็น เกี่ยวพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่) พ.ศ. … และร่าง พ.ร.บ.สถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย พ.ศ. … ซึ่งร่ายโดยพรรคภูมิใจไทย ก่อนนำเสนอต่อสภา
มีผู้เข้าร่วมงานอาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลังรังสิต, นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา, นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม ว่าที่เลขาธิการองค์การอาหารและยา เป็นต้น
นายสรอรรถ กล่าวว่า การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงและใช้กัญชาทางการแพทย์ได้อย่างเสรี มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขเห็นความสำคัญและให้ความร่วมมือปรับเปลี่ยนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและกฎหมายที่มีผลบังคับ และพร้อมแก้ไข เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน โดยต้องทำให้แล้วเสร็จเพื่อส่งให้สภาพิจารณาก่อนปิดสมัยประชุม
นายศุภชัย กล่าวว่า กฎหมายที่กำลังเสนอนั้น มีสาระสำคัญคือการตั้งสถาบันพืชยาเสพติดแห่งประเทศไทย ขึ้นมาดูแลควบคุมพืชยาเสพติดทุกประเภท เพื่อแยกพืชยาเสพติด ที่มีทั้งคุณและโทษออกจากยาเสพติดที่มีแต่โทษ เพื่อให้เกิดช่องในการใช้ประโยชน์จากพืชดังกล่าวได้ ที่สำคัญ เป็นการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากที่เราลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติดระหว่างประเทศ
ด้านนางสาวรสนา เปิดเผยว่า ข้อสังเกตการเพิ่มสถาบันพืชยาเสพติดฯ ขึ้นมาดูแลพืชยาเสพติดนั้น จะต้องทำให้เกิดความชัดเจนว่าหน่วยงานนี้จะผูกขาดการซื้อ-ขายกัญชาทั้งหมดแทนหน่วยงานรัฐหรือไม่ พร้อมแสดงความเป็นห่วงแพทย์แผนไทยในการใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรค ที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์แผนปัจจุบัน
ขณะที่ นายปานเทพ แสดงความเห็นว่า กฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เป็นจุดเปลี่ยน ในการนำพืชเสพติดมาใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง ขอชื่นชมในการปูพื้นฐานดังกล่าว ทั้งนี้ สิ่งที่ควรทำคือ ยกเลิกมาตรา 28 ที่ให้รัฐผูกขาด 5 ปี เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถเพียงพอ ได้เป็นหมอพื้นบ้าน ถ้าทำได้จะมีการพัฒนาที่ก้าวกระโดด ที่ไม่แพ้ต่างชาติ และประชาชนจะเห็นทั้งประเทศอย่างแท้จริง