นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการประชุมระดับสูงอาเซียน ว่าด้วยการพัฒนาทุนมนุษย์ ระบุว่า ทุนมนุษย์เป็นทุนที่สำคัญของชาติ เป็นรากฐานอันแข็งแกร่ง การที่เรามีระบบการดูแลสุขภาพที่ไม่น้อยหน้าใคร ถือเป็นจุดเด่น และถึงแม้ได้รับเสียงชื่นชมในเรื่องนี้ ก็ไม่เคยคิดหยุดนิ่ง แต่ต้องพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้น เพราะเป็นบริการที่ประชาชนควรได้รับ เมื่อประชาชนมีสุขภาพดี ประเทศชาติย่อมจะแข็งแรงตามมา
ทั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาที่คุณขององค์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก บิดาแห่งการสาธารณสุขไทย ที่ท่านวางรากฐานเรื่องนี้ไว้ นำระบบการแพทย์จากที่ท่านได้ศึกษา มาปรับใช้กับกระทรวงสาธารณสุขไทย กระทั่งได้รับการต่อยอดเสมอมาในทุกยุค ทุกสมัย
นอกจากนั้น นายอนุทิน ยังได้ขึ้นพูดในหัวข้อเรื่องความสำเร็จของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ระบุว่า
รู้สึกยินที่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย เป็นสิ่งที่ได้รับเสียงชื่นชม หากย้อนกลับไปก่อนที่จะมีระบบนี้ ประชาชน 25% ของทั้งประเทศ ไม่มีหลักประกันใดมาดูแลสุขภาพเลย แต่เมื่อเกิดระบบดังกล่าว ปรากฎว่าระบบ ได้เข้ามาดูแลสุขภาพประชาชนถึง 99.94%
ที่สำคัญหลักประกันนี้ ยังเกิดจากความตั้งใจของทุกภาคส่วนร่วมกัน โดยมีประชาชนเข้ายื่นรายชื่อเพื่อร่างกฎหมาย ในขณะที่ส่วนอื่นช่วยผลักดัน ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนมีส่วนร่วม
ผลสัมฤทธิ์ของโครงการคือจากเดิมที่คนไทยต้องใช้เงินส่วนตัว เพื่อดูแลสุขภาพ ประมาณ 200,000 บาท ก็เหลือเพียงประมาณ 50,000 บาท ในปี 2017
ปัจจุบัน ระบบสาธารณสุขไทย ดูแลสุขภาพคนไทยอย่างทั่วถึง เพราะมีทั้งสวัสดิการข้าราชการ, ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า, และระบบประกันสังคม
“มีนิตยสารฉบับหนึ่งบอกว่าระบบสาธารณสุขไทยติดอันดับ 6 ของโลก ย่อมรู้สึกยินดี เพราะนั่นคือความสำเร็จจากการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของคนไทยทั้งประเทศ แต่ก็ไม่อยากให้ยึดติดกับตัวเลข แล้วรู้สึกพอใจจนหยุดพัฒนา ส่วนตัวถึงจะได้อันดับไหน หน้าที่คือทำให้คนไทยมีสุขภาพดี มีร่างกาย และจิตใจที่แข็งแรง เป็นกำลังของชาติต่อไป”