ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ เฟซบุ๊ค “อนุทิน ชาญวีรกูล” ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปรากฏโพสต์เรื่องราวการขับเครื่องบินไปรับอวัยวะ เพื่อส่งให้กับสภากาชาดไทย นำไปช่วยเหลือผู้ป่วย ระบุข้อความว่า
“ภารกิจวันนี้ สำเร็จด้วยดี
ขอบคุณ ผู้เสียสละ และ ครอบครัว
ได้สร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่ ส่งต่อหัวใจ ส่งต่อชีวิตให้ผู้อื่น
ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้คณะแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ ส่งต่อหัวใจ ตามเจตนารมณ์ของผู้เสียสละ และครอบครัว
ผมจะกลับไปประชุมกับผู้รู้ทุกท่าน ทั้งการแพทย์ และ กฎหมาย เพื่อหาแนวทางตอบแทนผู้เสียสละ และ ครอบครัว ในฐานะผู้ทำประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ และยกย่อง เชิดชูเกียรติท่านเป็นบุคคลผู้เสียสละ อย่างเหมาะสม ต่อไป
ขอบคุณทุกท่านที่เอาใจช่วย
ขอบคุณหมอพัชร ที่ให้โอกาสผมได้มีส่วนร่วมกับภารกิจส่งต่อหัวใจ วันนี้”
ในคอมเม้นท์ มีผู้เข้ามาแสดงความชื่นชมและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้นายอนุทิน เปิดเผยเพิ่มเติม ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า การเดินทางมารับบริจาคหัวใจในครั้งนี้ เริ่มดำเนินการหลังจากทราบว่า มีผู้ป่วยของโรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชายวัย 25 ปี ประสบอุบัติเหตุ และได้แจ้งความจำนงขอบริจาคหัวใจและอวัยวะอื่นๆ ไว้กับทางโรงพยาบาล โดยได้รับการยินยอมจากญาติของผู้ป่วยแล้ว จึงได้นำทีมคณะแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ เดินทางมาทำการผ่าตัดอวัยวะ ประกอบด้วย หัวใจ 1 ดวง ไต 1 ข้าง และดวงตา 1 คู่ จากผู้ป่วยรายดังกล่าว เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นที่รอการช่วยชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในขณะนี้ โดยเฉพาะการผ่าตัดหัวใจ นั้น ทางทีมแพทย์มีความต้องการและต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดย หัวใจ 1 ดวง จะต้องส่งต่อและปลูกถ่ายอวัยวะทันทีภายใน 4 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นหัวใจจะขาดเลือดนาน ซึ่งทีมงานแพทย์ก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ทันตามเวลาที่กำหนด
จากการตรวจสอบแล้วพบว่า สภาพของหัวใจของผู้บริจาคยังอยู่ในสภาพที่แข็งแรงดีมาก หัวใจยังมีความสดและมีสัญญาณชีพที่ดี ทำให้มั่นใจว่า ผู้ที่จะรับหัวใจดวงนี้ไป จะต้องมีชีวิตต่อไปได้อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะอื่นๆ ที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็จะมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ มารับไตอีก 1 ข้าง ด้วย ดังนั้น การบริจาคหัวใจและอวัยวะของผู้ป่วยรายนี้ จะสามารถช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นได้ถึง 4 ราย ในครั้งเดียว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่นำคณะแพทย์มาทำการผ่าตัดหัวใจ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นนั้น ตนเองได้ดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้ว โดยทำไปแล้ว 25 เคส และเคสนี้ถือเป็นรายที่ 26 โดยมองว่า การบริจาคหัวใจและอวัยวะเป็นเรื่องที่ดีมาก เป็นบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ควรได้รับการยกย่องมากที่สุด คือ ผู้ที่บริจาคหัวใจและอวัยวะให้กับผู้อื่น จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมกันทำบุญด้วยการบริจาคหัวใจและอวัยวะให้กับโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อนำไปพัฒนาและให้การช่วยเหลือผู้ป่วยต่อไป ซึ่งปัจจุบันมีผู้รอรับบริจาคอวัยวะกว่า 6,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้าย และผู้ป่วยด้านสายตา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภารกิจดังกล่าว นายอนุทิน ต้องขับเครื่องบินไปที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปอวัยไปส่งต่อยังสภากาดชาดไทย กรุงเทพ โดยนายอนุทิน ขึ้นบินรับส่งอวัยวะช่วยชีวิตผู้ป่วยมาแล้วกว่า 20 เที่ยวบิน ช่วยชีวิตได้มากกว่า 50 ชีวิต