นายธีรพงษ์ เผ่ากา รองโฆษกพรรคเพื่อชาติเผยว่าเมื่อวานนี้ คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติร่างพ.ร.ฎ.เพื่อขึ้นเงินเดือนและค่าตอบแทนให้กับส.ส.และส.ว. ซึ่งเป็นการแก้ไขในเรื่องเวลาการเริ่มต้นเบิกจ่ายสำหรับเงินเดือนที่ได้ขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้วที่ทั้ง สส. และ สว. ได้รับค่าตอบแทนเดือนละหนึ่งแสนบาทต้นๆ โดยกำหนดเวลาเบิกจ่ายตั้งแต่วันเลือกตั้ง หรือวันเข้ารับตำแหน่ง
การขึ้นเงินเดือนทั้ง สส. สว. องค์กรอิสระ ข้าราชการระดับสูงตนไม่เห็นด้วยเลย ในภาวะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในสภาวะแร้นแค้นแทบจะไม่มีกิน รัฐบาลไม่สมควรใช้ภาษีที่มีอยู่จำกัดในรายจ่ายที่ยังไม่จำเป็น การขึ้นเงินเดือน สส. สว. องค์กรอิสระ ข้าราชการระดับสูง เป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสร้างคนจนเพิ่มขึ้นอีก ห้าปีที่ผ่านมามีการขึ้นเงินเดือนองค์กรอิสระทั้ง กกต. ปปช. อัยการ ศาลรัฐธรรมนูญ มีการขึ้นเงินเดือนนายพล ฯลฯ การขึ้นเงินเดือนเหล่านี้ไม่ได้เป็นการใช้เงินภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ ในภาวะที่เศรษฐกิจฐานรากกำลังจะล่มสลาย เป็นการซ้ำเติมให้ช่องว่างทางเศรษฐกิจสูงขึ้น เปรียบเสมือนการใช้งบประมาณของประเทศเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องไม่คำนึงถึงประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
นายธีรพงษ์กล่าวต่อว่าตนอยู่ในพื้นที่พี่น้องประชาชนอยากฝากถึงรัฐบาลว่า ขอให้ใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากก่อนที่ประชาชนส่วนใหญ่จะตายหมด การใช้งบประมาณภาษีช่วยคำนึงถึงประชาชนเป็นอันดับแรกด้วย อย่าให้ประชาชนคิดว่ารัฐบาลใช้จ่ายด้วยแนวคิดเพื่อผลประโยชน์และการรักษาอำนาจของตนเอง ประชาชนเริ่มเห็นความแตกต่างของวิธีการใช้งบประมาณเพื่อขึ้นเงินเดือนข้าราชการ องค์กรอิสระ สส. สว. กับการชดเชยให้ชาวบ้านที่นาแล้งนาล่มเพราะภัยพิบัติธรรมชาติ เกษตรกรที่นาล่มจากภัยแล้งหรือน้ำท่วมรัฐบาลเยียวยาให้ชาวนาไร่ละ 500 บาท และมีข้อจำกัดว่าให้ไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 5000 บาท แต่การใช้จ่ายเพื่อขึ้นเงินเดือนข้าราชการ สส. สว. องค์กรอิสระช่างแตกต่างราวฟ้ากับดิน ประชาชนจะสิ้นหวังหมดประเทศแล้ว เลือกตั้งเสร็จมาเกือบแปดเดือนไม่เห็นแก้ปัญหาเศรษฐกิจอะไรได้เลย