รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร อดีตคณบดี คณะรัฐศาสตร์ ม. รามคำแหง กล่าวถึงโครงการไทยนิยม เพื่อยกระดับชีวิตของประชาชน ว่า น่าจะเป็นแคมเปญใหญ่ครั้งสุดท้าย เพื่อตรวจสอบ ความนิยม และสร้างคะแนนเสียงก่อนการเลือกตั้ง ส่วนตัวมองว่า ปัญหาของรัฐบาล ณ ปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องของเงินที่ไปถึงมือประชาชน แต่เป็นเรื่องของความศรัทธามากกว่า เพราะรัฐบาลสัญญากับประชาชนไว้มาก แต่กลับไม่สามารถทำอย่างที่พูดได้
“การเกิดขึ้นของ คสช.ก็เพื่อปราบโกง รัฐบาลคาดหวังไว้สูง เพราะสังคมไทย ไม่ชอบการโกง และพร้อมแลกทุกอย่างเพื่อจัดการคนโกง แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับคือข่าวการทุจริตคอรัปชั่น ความน่าสงสัยของบุคคลภายในรัฐบาล ปรากฏว่ารัฐบาล ก็ไม่สามารถเข้ามาจัดการได้ ประชาชนไม่พอใจ
ประชาชนไม่สนใจแล้วว่าจะได้เงินเท่าไร เศรษฐกิจเป็นอย่างไร ตอนนี้เรื่องปราบโกง เป็นเรื่องที่ประชาชนอยากเห็นความเป็นรูปธรรม ถ้ารัฐบาลมีความกล้า ตั้งใจจัดการอย่างจริงจัง รับรองคะแนนนิยมกลับมาแน่ แถมใช้เงินน้อยกว่าด้วย”
รศ.อัษฎางค์ กล่าวต่อว่า การเลื่อนการเลือกตั้ง เป็นไปเพื่อสร้างคะแนนนิยมแน่นอน นอกจากนั้น เขายังหวังยืดเวลาเพื่อตรวจสอบคะแนนของฝ่ายเขา และฝ่ายตรงข้าม ให้ชัดเจนที่สุด ก่อนปล่อยเลือกตั้ง เพราะเขาไม่ต้องการแค่เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต้องชนะเลือกตั้ง และสามารถบริหารต่อได้ด้วย
“หาก คสช.ได้เป็นนายกฯ เพราะเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.เขาจะคุมเกมในสภาไม่ได้ เพราะการอภิปรายทั้งหลายแพ้ชนะอยู่ที่ ส.ส.ดังนั้น เขาต้องมั่นใจ ว่าเลือกตั้งครั้งหน้า ฝ่ายเขาจะได้ ส.ส.เท่าไร ถ้ามั่นใจ ถึงจะจัดการเลือกตั้ง”
สำหรับโอกาสที่ประเทศไทยจะเจริญกว่านี้ รศ.อัษฎางค์ระบุว่า “ต้องรอคนหนุ่มมีเงิน เข้ามาบริหารประเทศ”
ติดตามฉบับเต็ม : https://www.facebook.com/newsringside/videos/168685390574524/