รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมธิราช กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า เข้าสู่ปลายปี สิ่งที่นักการเมืองต้องหนาวๆ ร้อนๆ คือการไล่เช็กผลงานของรัฐมนตรี และการตั้งฉายา ซึ่งหนีไม่พ้นเรื่องของรัฐมนตรีที่โลกจำ และรัฐมนตรีที่โลกลืม ในส่วนของรัฐมนตรี โลกลืมนี่น่าจะเป็นส่วนมากของรัฐบาลชุดนี้ ขนาดทีมเศรษฐกิจ ที่เคยมีบทบาทมากมาย เป็นข่าวบ่อยครั้ง คอยอัพเดทสถานการณ์ไทย ควบคู่กับสถานการณ์โลก แต่มา ณ ปัจจุบันกลับเงียบหายไปเสียเฉยๆ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะการแต่งตั้งให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าทีมหรือไม่ เพราะอาจต้องรอท่านพูด ทั้งที่ท่านก็มีเรื่องมากมายให้รับผิดชอบอยู่แล้ว สุดท้ายเมื่อท่านไม่พูด ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลเลยเงียบตามไปด้วย
ขณะที่ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปรากฏว่ารัฐมนตรีว่าการ อย่างนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน กลับไม่มีบทบาท ต้องมาตั้งรับเรื่องแบนสารพิษ จนรัฐมนตรีช่วย เช่น นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ขยับมามีบทบาทการทำงานชัดเจนกว่า เช่นเดียวกับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ที่มีพื้นที่สื่ออยู่แล้ว ในฐานะเป้าของฝ่ายค้าน ตรงนี้คือส่วนที่โลกจำ และที่น่าสังเกตุอีกท่านคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่บทบาทลดน้อยถอยลงอย่างน่าเป็นกังวล ทั้งที่พรรคต้องการพลังในการฟื้นฟูพรรคจากยุคตกต่ำ
“สำหรับรัฐมนตรีที่โลกต้องจำมากที่สุด แน่นอนว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ติดโผแน่นอน ด้วยตำแหน่ง ด้วยบทบาท ซึ่งแสงไฟสาดส่อง แต่คนหนึ่งที่สร้างเซอร์ไพรส์คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่แอคชั่นเรื่องการทำงานมาตลอด นับตั้งแต่เรื่องกัญชา มีข่าวปรากฎเรื่อยๆ วันนี้ ขยับมาลุยเรื่องแบนสารพิษ สอดคล้องกับความต้องการของคนไทยจำนวนมาก ไปจนถึงการเดินหน้าโครงการรถไฟ 3 สนามบิน ที่กล้าเรียกร้องกับทุนยักษ์ใหญ่ นับว่าได้คะแนนไปเยอะ”
รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย กล่าวต่อว่า รัฐมนตรีที่มีชื่อบนสื่อ นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ยังมีพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี หากพูดกันเรื่องนโยบายพรรค นโยบายที่เป็นกระแสสื่อยังเป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย อาทิ เรื่องของการแบนสารพิษ และการสร้างรถไฟ 3 สนามบิน ที่ภูมิใจไทยเดินเกมเชิงรุก ส่วนของพรรคพลังประชารัฐ นโยบาย “ชิม ช้อป ใช้” มีทั้งคนชอบ คนเชียร์ แต่เสียงวิจารณ์มากมายมหาศาล ทั้งถูกกล่าวหาว่าเป็นประชานิยม แจกเงิน จนเกรงว่าจะลดทอนเสียงชื่นชมลงไปในที่สุด