ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมที่เขต 5 จังหวัดนครปฐม ที่ผู้สมัครอนาคตใหม่พ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครของพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า ไม่ว่าจะเป็นผลการเลือกตั้งที่นครปฐม หรือกรณีที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่หลายคนไม่ปฏิบัติตามมติของพรรค ตนขอเรียนว่าสถานการณ์และกาลเวลา เหมือนไฟเราจะต่อสู้กับเผด็จการหรืออำนาจที่ไม่เป็นธรรม ดาบนั้นก็จะต้องไม่มีสนิม ดังนั้น เมื่อผ่านสถานการณ์ ผ่านเวลา ไฟเหล่านี้จะเอาสนิมออกจากดาบเอง
“ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า 28,000 เสียงที่นครปฐม เป็นเหล็กเนื้อดี เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า 70 ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่เป็นเนื้อดี การเดินทางและสถานการณ์จะทำให้เหล็กของเรากล้าแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นมีแต่ความภาคภูมิใจ ที่ยังมีประชาชนยืนอยู่กับพรรคอนาคตใหม่กว่า 28,000 คน จึงไม่มีความกังวลใจอะไร เล็กเพื่อใหญ่ ล้มเพื่อลุก เราขอยืนยันจะทำงานทางการเมืองภายใต้ร่มของพรรคอนาคตใหม่ต่อไปให้มั่นคงและเเน่วแน่” นายธนาธรกล่าว
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีการประกาศแคมเปญการเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐม จะเป็นโดมิโนจะล้มเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำได้ ผ่านคำพูดที่ว่า “ทนลุงไม่ไหวให้เลือกอนาคตใหม่” แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมากลับพบว่าพรรคอนาคตใหม่พ่ายแพ้ ได้มีการวิเคราะห์แคมเปญนี้อย่างไร นายธนาธรกล่าวว่า เราพ่ายแพ้ไปเราก็ยอมรับ ซึ่งทางพรรคชาติไทยพัฒนาทำงานได้เต็มที่ ก็ต้องขอเเสดงความยินดีกับพรรคชาติไทยพัฒนาด้วย
เมื่อถามย้ำว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้สะท้อนถึงความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่มีความนิยมมากขึ้น นายธนาธรกล่าวว่า วันนี้ถ้าลองไปเดินตลาดหรือเช็กความนิยมของประชาชน คำถามนี้ก็คงตอบได้ไม่ยาก ทั้งนี้ ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทางพรรคเองก็ได้มีการประเมิน โดยทีมรณรงค์การเลือกตั้งคงสรุปผลและส่งมาเป็นคำชี้แจง ข้อเสนอปรับปรุงการทำงานของพรรคเพื่อให้พรรคเข้มแข็งต่อไป อย่างไรก็ตาม ในฐานะหัวหน้าพรรคยังไม่ได้สรุปว่าความพ่ายแพ้ครั้งนี้เกิดขึ้นจากอะไร แต่ก็ผิดหวังกับผลที่ออกมา
เมื่อถามว่า ถือว่าเป็นขาลงของพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ยังมองไม่เห็นว่าเป็นขาลงอย่างไร แต่เราก็ไม่ได้ตกใจ อย่าลืมว่าพรรคอนาคตใหม่เข้ามาด้วยระยะเวลาที่สั้นขนาดนี้ ทำให้เราไม่สามารถคัดกรองบุคลากรที่มีความคิดความฝันเหมือนกับพรรค ดังนั้น เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์คนที่จะเดินไปต่อกับพรรค ถือเป็นเหล็กเนื้อดีที่ไม่มีสนิม ต่อให้เขาซื้อพวกเราทั้งหมด แต่เขาซื้อปิยบุตรกับซื้อธนาธรไม่ได้ แม้ว่าจะเหลือแค่เราสองคน เราก็จะเดินหน้าต่อและทำงานการเมืองเพื่อให้ได้สังคมตามที่เราฝันไว้
เมื่อถามว่าจากการที่โหวต พ.ร.ก.อัตรากำลังพลฯ และร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ วาระแรก ส่วนตัวเห็นว่าเหล็กที่เป็นสนิมภายในพรรคมีจำนวนเท่าไร นายธนาธรกล่าวว่า ทางพรรคจะมีการตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนขอตั้งข้อสังเกตในเรื่องดังกล่าวว่าส่วนตัวมีความภาคภูมิใจในสมาชิกของพรรค เรายืนยันมาตลอดว่าสมาชิกของพรรคเป็นเจ้าของพรรค และการที่พรรคยึดโยงกับสมาขิกของพรรคได้มีการเเสดงออกแล้วเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าพรรคนี้สมาชิกมีสิทธิมีเสียง มีความฝันเหมือนกับพรรค คอยอุดหนุนและสนับสนุนการตัดสินใจให้ ส.ส.ของพรรคได้ไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนที่สมาชิกหลายคนออกมาโพสต์ว่าในพรรคมีการแบ่งชนชั้นนั้นก็ไม่เป็นความจริง
นายธนาธรกล่าวต่อว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (3) ที่ระบุว่าให้นำจำนวน ส.ส.ที่พรรคการเมืองพึงมีพึงได้ ลบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคนั้นได้ในแบบเเบ่งเขต ที่เหลือเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ แต่การเลือกตั้งที่นครปฐม ไม่ได้นำคะแนนจากการเลือกตั้งซ่อมในนครปฐมมารวม เพราะไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อมที่เกิดจากการทุจริต ดังนั้นจึงใช้กระดานเดิมในการคำนวน ส.ส.พึงมีของพรรคอนาคตใหม่ยังมี 81 คน แต่ ส.ส.ปัจจุบันมีเพียง 80 คน ดังนั้นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (3) ดังนั้นจึงอยากฝากนักกฎหมายมหาชนทั่วประเทศ ช่วยไตร่ตรองดูว่า นายมานพ คีรีภูวดล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับต่อไปของพรรคอนาคตใหม่จะได้เป็น ส.ส.หรือไม่ ขณะที่บางพรรคมีจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อมากกว่าจำนวน ส.ส.พึงมี