ผศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร อาจารย์ประจำคณะมานุษยวิทยาและสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงปัญหาความเพิกเฉยต่อการเมือง ในหมู่คนรุ่นใหม่ ว่า หากการเมือง หมายถึงเรื่องบ้านเมือง การออกมาเรียกร้องสิทธิ์ในการปกครองเช่นในสมัย ปี 2516 ต้องยอมรับว่า คนหนุ่มสาวลดความกระตือรือร้นในเรื่องทำนองดังกล่าวไปแล้ว
ส่วนหนึ่งเพราะ พื้นที่การชุมนุม ไม่ปลอดภัย เสี่ยงต่อการถูกตั้งข้อกล่าวหา ที่จะตามมาด้วยความวุ่นวายในการดำเนินชีวิต อาจจะต้องขึ้นศาล เป็นต้น อีกประเด็นคือ ระบอบการเมืองไทย มัน “ตัดขาด” วัยรุ่นออกมาจากการเมือง เพราะสังคมไทย พัฒนาแบบกระจุกตัวอยู่ในเมือง และดึงดูดวัยรุ่นให้เข้ามาอยู่ในเมือง ซึ่งสามารถสนองความต้องการของคนหนุ่มสาวได้
แน่นอน มันทำให้เขาไม่สนใจจะออกมาเรียกร้องอะไรทั้งสิ้น และกลายเป็นผู้ใหญ่ คนสูงวัยนอกเมือง ที่กลับมีบทบาทตรงนี้แทน เพราะเขายังไม่ได้รับการตอบสนองจากส่วนกลางเป็นที่น่าพอใจ
“คตินิยมเรื่องความเป็นเจ้าของประเทศมันลดความสำคัญลง สังคมสมัยใหม่ ประชาชนต้องการอยู่อย่างสบาย จะเห็นว่ามีคนไทยมากมายเดินทางไปอยู่ต่างประเทศ ใช้ชีวิตดีๆที่โน่น โดยไม่มีความเป็นเจ้าของประเทศ ไม่มีสิทธิ์ทางการเมือง แต่เขาอยู่ได้ สังคมโลก มันกำลังเป็นไปแบบนั้น”
นักมานุษยวิทยา กล่าวต่อว่า แม้วัยรุ่นจะถูกกีดกันจากเรื่อง “บ้านเมือง” แต่วัยรุ่นกลับสนใจการเมืองรูปแบบอื่น อาทิ เรื่องเพศ เรื่องกลุ่มชาติพันธุ์ เหล่านี้เป็นต้น นับเป็นพลังของวัยรุ่นที่ซ่อนอยู่ในอีกรูปแบบ
สำหรับในทางบ้านเมือง พลังของวัยรุ่นยังเป็นที่ประจักษ์ เพราะแกนนำการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ล้วนเป็นวัยรุ่น ที่เรียกร้องกันมา 4-5 ปี แล้วทั้งสิ้น
“จะบอกว่าพลังของวัยรุ่นเหลือศูนย์คงไม่ถูกต้องนัก เพียงแต่พวกเขารอคอยพื้นที่ ที่สามารถแสดงออกได้อย่างปลอดภัยมากกว่า อาทิ การเลือกตั้ง เป็นต้น ผู้มีอำนาจเอง ก็รู้ดี ว่าเขายังคุมวัยรุ่นและคนไทยไม่ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ภาพการชุมนุมที่มีคนมาร่วมหลักร้อย มันไม่ได้สะท้อนความจริงในวันเลือกตั้ง เช่นนี้เอง การเลือกตั้ง จึงยังไม่เกิดขึ้น”
ผศ.ดร.ยุกติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ผู้มีอำนาจในประเทศไทย ฉลาดพอ ในการเปิดช่องให้วัยรุ่นได้มีอิสรภาพในการคิดและทำ ซึ่งต่างจากรัฐบาลจีน ที่เข้าไปคุมวัยรุ่นฮ่องกงอย่างเบ็ดเสร็จ จนวัยรุ่นที่ฮ่องกงต้องระเบิดพลังออกมา กลายเป็นการชุมนุมที่ยืดเยื้อยาวนาน ส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลไทย จะไม่เดินรอยตาม
รับชมฉบับเต็ม : https://www.youtube.com/watch?v=Qd8H-5L-UL0&feature=youtu.be