วันนี้ (28 ต.ค.62) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมเป็นพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย ด้านการออกกาลังกายและด้านกีฬา ระหว่าง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมี นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และนายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เป็นผู้ลงนาม ณ ห้องประชุม ชั้น ๒ อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ข้อตกลงความร่วมมือนี้สอดคล้องกับแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกรมพลศึกษา และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาทุกจังหวัด จะให้การสนับสนุนวิทยากรด้านการออกกำลังกายและเล่นกีฬา สนับสนุนองค์ความรู้ สื่อและการฝึกอบรมด้านการออกกาลังกายและเล่นกีฬาให้แก่เจ้าหน้าที่บุคลากรและกลุ่มเป้าหมายทั้งในและนอก สถานสงเคราะห์ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งการประสานความร่วมมือ กับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเป็นเครือข่ายสนับสนุนการดาเนินงานด้านการออกกาลังกายและเล่นกีฬา
นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการพัฒนาศักยภาพเด็ก เยาวชน คนพิการในสถานสงเคราะห์ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สู่ความเป็นเลิศและอาชีพด้านกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย จะให้การสนับสนุนการสร้างระบบการคัดเลือกนักกีฬา การฝึกซ้อม และการแข่งขัน สนับสนุนอุปกรณ์กีฬา พัฒนาและปรับปรุงสนามกีฬาให้ได้มาตรฐาน สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญเพื่อการพัฒนาทักษะความสามารถด้านกีฬา รวมทั้งการสนับสนุนองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อพัฒนาศักยภาพทางร่างกาย การขอรับการสนับสนุน งบประมาณจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ตลอดจนสร้างช่องทางและโอกาสแก่เด็ก เยาวชน และคนพิการดังกล่าว ในการเข้าร่วมการแข่งขันระดับจังหวัด ภูมิภาค ประเทศ และนานาชาติ
นายจุติ กล่าวว่า นับเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัยตั้งแต่วัยเด็ก จนกระทั่งเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ ทั้งที่เป็นผู้รับการดูแลในสถานสงเคราะห์ และนอกสถานสงเคราะห์ในด้านการ ออกกำลังกายและการเล่นกีฬา รวมถึงการพัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศในกลุ่มเด็ก เยาวชน และคนพิการใน สถานสงเคราะห์ เพื่อต่อยอดสู่ระดับอาชีพให้สามารถพึ่งตนเองได้ในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในทุกช่วงวัย การเสริมสร้างคนให้มีสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดีผ่านกิจกรรมการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพตั้งแต่ก่อนเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ ซึ่งจะเป็นการลดภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุได้ในระยะยาว ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปเจตนารมณ์ของข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว จะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันทั้ง 2 กระทรวง เพื่อวางแผน ขับเคลื่อน และติดตามการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลอย่างต่อเนื่องต่อไป