เข็นกันออกมาไม่กี่ชื่อกับ “แคนดิเดท” นายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง ในฐานะผู้ท้าชิงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำฝ่ายบริหารในปัจจุบัน ที่แม้จะมีสภาพไม่สู้ดีนัก เข้าขั้นสะบักสะบอม แผลเยอะพอสมควร แต่ยังมากบารมีเหนือผู้เล่นหน้าอื่นที่ถูกเอามาเทียบเคียง
รศ.สุขุม นวลสกุล นักวิชาการรุ่นโก๋แก่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง กล่าวกับรายการ “ringsideการเมือง” ว่า แม้แต่ละฝ่าย ยังไม่เปิดตัวชัดเจนว่าจะส่งใครลงแข่ง แต่ชื่อล้วนหนีไม่พ้นเป็นคนที่สังคมน่าจะทราบกันอยู่ หากเป็นพรรคเพื่อไทย ก็ คือ คุณหญิงหน่อย บ้างก็ว่า ชัชชาติ ไปไกลสุดได้แค่ “โอ๊ค พานทองแท้”
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ชั่วโมงนี้ลั่นแล้ว ว่าหัวหน้าพรรคชื่อ “อภิสิทธิ์”
นั่นแหละ คือ ผู้ท้าชิงนายกฯ
ตัวเลือกมีเท่านี้ มีหรือจะสู้ “พลเอกประยุทธ์” ได้ เพราะอย่าลืมว่า พลเอกประยุทธ์ แม้สถานการณ์ในรัฐบาล จะ 3 วันดี 4 วันไข้ มีเรื่องความโปร่งใส ผสมเรื่องแซะกันเองแทบทุกวัน แต่ด้วย “ออร่า” บิ๊กตู่นับวันยิ่งเบ่งบาน ด้วยพรรษาการเมืองที่มากขึ้น ความเจนจัดทางการเมือง ก่อเกิด “กึ๋น” ที่พัฒนา
สังเกตได้ว่า “บิ๊กตู่” ตีกรรเชียงหนีข่าว ที่เกี่ยวข้องกับคนใกล้ชิด แต่จะกล้าฟันฉับ ขยับให้เป็นข่าว เมื่อโจมตี “นักการเมือง” มันถูกอกถูกใจเหล่ากองเชียร์แม่ยกเสียนี่กระไร แถมสื่อไทย ก็ชอบอะไรทำนองนี้เสียด้วย เรียกว่า ขโมยพื้นที่ข่าว สาดโคลน ให้ฝ่ายการเมือง รับกรรมไปเต็มๆ
สำหรับเรื่องคอรัปชั่น รัฐบาล มีตัวกรองหลายชั้น กว่าเรื่องจะสะเด็ดมาถึงบุคคลระดับ “บิ๊กเบิ้ม” ก็มักมีคำอธิบาย ให้สังคมสงบความสงสัย ต้องยกความชอบให้องค์กรอิสระ ที่กอดวลี “อยู่ในระหว่างการสอบสวน” ไว้แน่น เสมือนเป็นกำแพง กันกระแสมวลชน ไปกระทบคนในรัฐบาล
เรื่องเศรษฐกิจ ต้องยอมรับว่า รัฐบาล “บิ๊กตู่” อยู่ในสภาวะ “ขาขึ้นทางตัวเลข” เพราะไม่ว่าจะกางดัชนีชนิดไหน จะค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ดัชนีอุตสาหกรรม การเติบโตทางเศรษฐกิจ ตัวเลขส่งออก ล้วนพุ่งทะยานขึ้น จะมาก จะน้อยแตกต่างกันไป
แม้จะโดนค่อนขอดว่า “จนกระจุก รวยกระจาย” แต่ก็เป็นเพียงความรู้สึก วัดกันลำบาก ที่สำคัญตัวเลขที่รัฐบาลสรรหามา สามารถใช้ปิดปากฝ่ายตรงข้ามสนิท
ที่สำคัญ ล่าสุด Bloomberg ระบุว่าประเทศไทย เป็นดินแดนที่มีความสุขที่สุดในโลก ยิ่งเร่งดัชนีความแฮปปี้ ให้รัฐบาลขึ้นไปอีก ทั้งที่ดัชนีความสุขของบลูมเบิร์ก มีช่องว่างมากมาย แต่คนไทย ก็รับข่าวสาร และเชื่อไปแล้ว
“รัฐบาลย่อมได้หน้าเป็นธรรมดา”
จะมีให้ต้องคิดมากหน่อย คือ เรื่องกระถางแตก นกจิกกันตาย ที่มีโหรหลายค่ายมาทำนายว่า รัฐบาลจะเจอโชคร้าย แต่ยังนึกไม่ออกว่า โชคร้ายที่ว่าจะ นำพาอายุของรัฐบาล และ คสช. ให้สั้นลงได้อย่างไร เพราะแกร่งดังเหล็กกล้า ที่ไม่ใช่มาจากคะแนนนิยม แต่มาจากกึ๋นการกระชับอำนาจ และโชคช่วยเสียเยอะ
เทียบกรณี “บิ๊กป้อม” ประไร จวนไปก็หลายหน สุดท้ายก็อยู่ต่อ เพราะได้ข่าว “บิ๊กอิตัลไทย” ยิงเสือ ช่วยกลบเสียมิด แถมตอนนี้ ยังมีเรื่องป้าฟันรถ ก็ถือได้ว่า ประเด็น “นาฬิกาหรู” จบแล้วโดยบริบูรณ์
ย้อนกลับมาที่ “บิ๊กตู่” ส่วนตัวย่อมได้อานิสงส์ จากผลงานของรัฐบาล แถมมีพื้นที่สื่อ ให้ขู่ ให้ปลอบสังคม เรียกว่า กุมประเทศนี้อยู่หมัด ยิ่งล่าสุด กฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษผ่าน ต่างชาติขอลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท ใครเล่าจะได้หน้า จากยอดตัวเลขนี้ หากไม่ใช่คนชื่อ “พลเอกประยุทธ์”
ที่เล่ามาทั้งหมดมาหาใช่บิ๊กตู่ไร้จุดอ่อน เพราะฝ่าย รัฐบาล และ คสช. ก็การ์ดตก โดนต่อยมาหลายหน แต่อดทนอยู่ได้ เพราะ “โลกฟื้น ไทยฟื้น รัฐบาลฟื้น” แถมมีขุมอำนาจข้าราชการ และองค์กรตรวจสอบไว้ในมือ ย่อมคุมได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม หากถามใจประชาชน ต้องยอมรับว่า คะแนนนิยมร่วงลงมาตามลำดับ หลังหมดช่วงฮันนีมูน เพราะถูกโจมตีด้วยข่าวคอรัปชั่น และการบริหารงานที่ไร้ความน่าจดจำ เงินลงไปไม่ถึงประชาชนเสียที อารมณ์ของชาวบ้านเริ่มไม่ปลื้ม
แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะฝ่ายการเมือง ก็ยังไม่ให้กำเนิดตัวเลือกใหม่ขึ้นมา แน่นอนว่าตัวเลือกใหม่นี่เอง จะเป็นตัวตัดสินว่า “บิ๊กตู่” จะอยู่หรือไป
รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง นิยามสเปคของตัวเลือกใหม่ ว่า
“ต้องเป็นคนหนุ่ม มีความพร้อม มีความกล้า”
หลังฉากการพูดคุย คือต้อง ทั้งกล้า ทั้งเก่ง ทั้งรวย
คำถามต่อมาคือ “คนแบบนั้น” จะหามาจากไหน ในโลกการเมืองที่มีแต่การฆ่าฟัน สาดโคลน ใครลงมา ก็เปรียบเสมือนลงไปคลุกอาจมก็ไม่ปาน
แถมบางพรรค ก็เนียนด่ารัฐบาลบิ๊กตู่ แต่ใจลึกๆ แอบหวังให้การเมืองพลิก มีช่องให้ตัวเองสอดแทรกไปรับส้มหล่น เป็นนายกฯ แบบฟลุคจังฮู้อีกสักรอบ แบบนี้ก็มีเหมือนกัน
สำหรับประชาชนแล้ว ชัดเจนว่า เสียงตรงกลางมีพลังอย่างยิ่งตรงนี้ คือจุดตัดสินว่า ใครจะเข้าวินในวันเลือกตั้ง กลุ่มหน้าเดิม ผลงานประจักษ์ ว่าเคยมีส่วนร่วมกับความขัดแย้ง ไม่ทางใด ก็ทางหนึ่ง ประชาชนกลุ่ม “คนตรงกลาง” น่าจะส่ายหน้าเดินหนี แต่ถ้ามีคนใหม่ อาจไม่แกะกล่อง เป็นพวก “ของดีหลังตู้โชว์” ถูกจัดใหม่ ให้มาอยู่ “ข้างหน้า” กลุ่มนี้ มีความหวัง เพราะมีประสบการณ์ทางการเมือง ไม่ถอดใจ แต่ปกติ สินค้าหลังตู้โชว์ แม้ไม่มีคนเห็นแต่ก็มักปลอดภัย อยู่สบาย คำถามตัวโต คือ ใครจะออกมาให้เป็นเป้านิ่ง คนเห็นมาก โดนวิพากษ์ง่าย
ก็ต้องเสี่ยงดวงว่าใครจะ “กล้า” เข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่ พรรคเล็ก พรรคใหญ่ ส่งใครมา ประชาชนล้วนให้ความหวัง ในวันที่ การหย่อนบัตรมาถึง
เป็นกำลังใจจ้า
newsringside