อคติ !
“อยากฝากไว้ว่า ถ้าเราเป็นสื่อ มันต้องเป็นสื่อ อย่าไปเล่นการเมืองเสียเอง ต้องรักษาหน้าที่และความน่าเชื่อถือที่สร้างสมมานาน ซึ่งกว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เวลาทำลายมันเร็ว ตรงนี้ขอพูดความจริงว่า หลายคนเขาหยุดดู เพราะเหตุนี้”
รศ.สุขุม นวลสกุล นักวิชาการรุ่นใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เตือน “สื่อดัง” เจ้าหนึ่ง หลังแสดงเจตนาโจ่งแจ้งจ้องตรวจสอบการทำงานของ “พรรคภูมิใจไทย” เท่านั้น
“สื่อดัง” ขึ้นข้อความในเพจเฟซบุ๊คว่า
“รายการ … ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชน ข้าราชการทั่วประเทศ ที่พบเห็นพฤติกรรมของผู้แทนพรรคภูมิใจไทย เข้าข่ายแทรกแซงหรือสั่งการโดยไม่ชอบ ให้ร้องเรียนมายังรายการโดยตรง”
เจาะจงเล่นงานอยู่พรรคเดียว !!!
นักวิชาการชื่อดังย้ำว่า
“ถ้าสื่อเล่นการเมืองเสียเอง ไม่แตะคนนี้ ว่าแต่คนนี้ ความไม่น่าเชื่อถือมันเกิด และอาจทำให้คนดูเกิดความสงสัย ในที่สุดก็อาจไม่มีคนดู เพราะรู้อยู่แล้วว่าสื่อดังกล่าวมีเนื้อหาและทิศทางอย่างไร …ถ้ามีจุดมุ่งหมายทางการเมืองเช่นนี้ มันไม่เป็นธรรมกับผู้เสพข่าวสาร”
จะพูดด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ ทว่านี่คือ “สาร” ที่คนซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น “สื่อ” ควรละลึกถึง โดยเฉพาะ “สื่อบางเจ้า” ซึ่งก่อร่างสร้างตัวมาเป็น “สื่อชื่อดัง” แต่กลับนำเสนอข่าวอย่างมี “อคติ” จนน่าเหลือเชื่อ
“อคติ” เกิดจากความไม่เป็นกลาง เป็นคุณสมบัติที่ไม่พึงเกิดขึ้นกับ “สื่อ” เพราะจะทำให้การนำเสนอนั้นเอนเอียงขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่ง “สื่อดัง” ได้ถูกตั้งคำถามกับเรื่องนี้มานาน
ย้อนกลับไปช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งปี 2562
เป็น “สื่อดัง” ที่กำลังงัดง้างกับ “พรรคภูมิใจไทย” นี่เอง ที่ “นำคลิปตัดต่อ” ขึ้นมาเป็นข่าว
เผยแพร่คลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ คุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อต่อรองตำแหน่งทางการเมือง
กลายเป็นข่าวใหญ่โต แต่ที่สำคัญคือสังคมจับได้ว่าคลิปดังกล่าวเป็น “คลิปตัดต่อ”
กระแสตีกลับ “สื่อดัง” จนต้องเชิญนายธนาธรออกมาชี้แจง เพื่อ “แก้เกี้ยว”
แน่นอนว่านายธนาธรจัดหนัก ชนิดว่า “สื่อดัง” ยับคาบ้าน
“ไม่คิดว่าสื่อมวลชนที่มีคุณภาพจะเอาคลิปแบบนี้มาออกรายการ การที่เนชั่นเอาคลิปนี้ออกมาก็แสดงใหเห็นว่ามาตรฐานจริยธรรมของ XXX ตกต่ำลง เสียดายสื่ออย่าง XXX ที่เอาคลิปนี้มาออกรายการ”
พร้อมย้ำว่า
“ใครฟัง ก็รู้ว่าเป็นของปลอม”
ขณะที่ด้านผู้ประกาศ “ช่องดัง” อย่าง “ศตคุณ ตันทวีวิวัฒน์” ผู้ ที่โดนนายธนาธร “จัดเต็ม” ทำหน้าที่ “รับหน้า” แทน “รุ่นพี่”
ได้ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์
– เราควรรักและเคารพคนที่ให้เกียรติ และเห็นคุณค่าในงานเรา ไม่ใช่คนที่คิดแต่จะหลอกใช้
– ถูกใช้เป็นเครื่องมือมาก จนลืมสิ่งที่ถูกที่ควร หวังว่าคงไม่ต้องกราบโต๊ะอีกนะ
– ถ้าเราไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ จงเอาตัวเองออกมา #เจ็บนิดๆ #ตึ่งโป๊ะ
ด้านนายสุทธิชัย หยุ่น ได้ออกมาให้ความเห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเชิงเตือนสติ
“XXX ที่ผมเคยทำ มีสิ่งที่เรียกว่า XXX เป็นคู่มือจริยธรรมคนทำข่าวของเครือ XXX ซึ่งถ้าเปิดดูและอ่านเพื่อที่จะตอบว่า ที่เห็นการกระทำครั้งนี้ถูกหรือผิด ก็จะรู้ว่ามีความสุ่มเสี่ยงที่จะถูกมองว่าผิดจริยธรรม ดังนั้นสำหรับผมมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิด และเป็นเรื่องที่คนที่เกี่ยวข้องจะต้องทบทวน ฟื้นความน่าเชื่อของคนทำสื่อ”
นี่คือ “วีรกรรม” ของสื่อช่องดัง ก่อนที่จะมาล็อกเป้าโจมตี “ภูมิใจไทย” แบบน่าสงสัย
เรื่องของเรื่องต้องย้อนกลับไปในวันที่ผลโพลระบุตรงกันว่าคะแนนนิยมของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยพุ่งสูงปรี๊ด จากนโยบายกัญชา แบนสารพิษ และการสร้างรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน
จากนั้นสื่อช่องดังได้ออกมาโจมตี “นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแบบจัดหนัก จนทางพรรคตัดสินใจฟ้องร้องดำเนินคดี ให้เหตุผลว่าเป็นการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ
นำมาซึ่งการโต้ตอบของ “สื่อช่องดัง” ซึ่งไม่ใช้ช่องทางกฎหมายสู้ตามกรอบ แต่เลือกตัดสินใจโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค
“รายการ … ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชน ข้าราชการทั่วประเทศ ที่พบเห็นพฤติกรรมของผู้แทนพรรคภูมิใจไทย เข้าข่ายแทรกแซงหรือสั่งการโดยไม่ชอบ ให้ร้องเรียนมายังรายการโดยตรง”
กระทั่งเกิดความน่าสงสัยเรื่อง “ความเป็นกลาง” ของสื่อนี้
และ รศ.สุขุม ต้องออกมาเตือน
เป็น “วีรรรม” ล่าสุด ของ “สื่อช่องดัง”
สำหรับ “สื่อช่องดังนั้น” เคยเป็นหนึ่งในทำเนียบสื่อระดับคุณภาพ เป็นสถาบันข่าวที่น่าเคารพยกย่องที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดดเด่นทั้งข่าวเศรษฐกิจ การเมือง และต่างประเทศ ปั้นนักข่าวระดับประเทศขึ้นมามากมาย หนึ่งในนั้นคือ “สุทธิชัย หยุ่น”
จากนั้น ถูกเทคโอเวอร์ต่อโดยกลุ่มนักลงทุนในตลาดหุ้นฝีมือฉกาจ ที่มีชนักติดหลังเรื่องคดีปั่นหุ้น ที่ถูก DSI ฟ้อง
ทั้งนี้ นักเล่นหุ้นรายนี้ มิได้สยายปีกเข้าไปพียงในธุรกิจสื่อ แต่ยังส่ง “ภรรยา” เข้าไปทำงานให้กับพรรคการเมืองใหญ่ จนเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และระหว่างที่ “เธอ” เข้าไปทำงานให้กับพรรคนี้ ก็มีคำถามกลับมาเสมอว่า เป็นการเดินเกมเพื่อ “เคลียร์คดี” ให้ “สามี” หรือไม่
ทั้งนี้ หากมองย้อนไป จะพบว่า กระทรวงคมนาคม ที่มีนายศักดิ์สยามเป็นรัฐมนตรี เป็นที่หมายปองของ “หลายคน”
ท่าทีของ “สื่อดัง” จึงถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการ “รับใช้ทางการเมือง” เพื่อทำภารกิจ “เขี่ยพ้นกระดาน”
หากมองด้วยความสงสาร และสงสัย อาจจะไม่ใช่เพียง “ศตคุณ ตันทวีวิวัฒน์” ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ
เพราะ “สื่อดัง” ทั้งบริษัท ก็อาจจะกำลังตกเป็น “เครื่องมือ” ทางการเมืองเช่นกัน
ดังนั้น จึงอย่าแปลกใจ หากหลายคนตั้งคำถามว่า “สื่อชื่อดัง” กำลังทำงานด้วยใจ “อคติ”
Ringsideการเมือง