นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาการจราจรจากการก่อสร้าง บนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) พร้อมด้วย นายสุชาติ โชคชัยวัฒนา กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงฯ นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้แทนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และคณะทำงานศึกษาสภาพปัญหาเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการจราจรและลดผลกระทบจากโครงการก่อสร้างระบบคมนาคม เข้าร่วมประชุม ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 เวลา 15.30 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงฯ
การประชุมในครั้งนี้ เพื่อติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาฯ ถนนพระราม 2 ตามข้อเสนอแนะของคณะทำงานฯ ซึ่งได้จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ พิจารณา และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมทางหลวง (ทล.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ดำเนินการตามข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการโครงการก่อสร้างในพื้นที่ที่มีปริมาณจราจรหนาแน่นต่อไป สำหรับข้อเสนอแนะของคณะทำงานฯ ประกอบด้วย แนวทางการบริหารจัดการจราจรในงานก่อสร้าง และโครงการก่อสร้างในพื้นที่การจราจรหนาแน่น หรือมีประมาณรถมากกว่า 80,000 คันต่อวันขึ้นไป หรือมีผู้รับจ้างมากกว่า 1 ราย ในพื้นที่เดียวกัน หรือการก่อสร้างอยู่ในพื้นที่เขตเมืองชั้นใน โดยแบ่งการบริหารจัดการตั้งแต่ช่วงออกแบบ จัดซื้อจัดจ้าง และก่อสร้าง
นอกจากนี้มีข้อเสนอแนะสำหรับกรณีโครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 ตอนทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ซึ่งคณะทำงานฯ ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาในมิติการประชาสัมพันธ์ การบริหารงานจราจร การเร่งรัดการก่อสร้าง และการบริหารพื้นที่ร่วม รวมถึงให้ ทล. และ กทพ. ร่วมกันจัดทำแผนบูรณาการการใช้พื้นที่ทำงานก่อสร้างและแผนบริหารจราจร สำหรับโครงการปรับปรุงฯ โครงการก่อสร้างทางยกระดับบนถนนพระราม 2 ตอนทางแยกต่างระดับฯ ของ ทล. และโครงการทางพิเศษ ช่วงพระราม 3 – ดาวคะนอง ของ กทพ. ที่มีพื้นที่โครงการทับซ้อนกัน รวมทั้งคณะทำงานฯ ได้มีข้อแนะนำให้ ทล. จัดทำแผนบูรณาการสั่งการ (Single Command Center) เพื่อบริหารจัดการจราจร การให้ความช่วยเหลือและการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ทางทราบข้อมูลสภาพการจราจร เพื่อตัดสินใจเลือกใช้เส้นทางสำหรับทุกโครงการในพื้นที่ ทั้งนี้ ผลดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะทำงานฯ มีดังนี้
– มิติการประชาสัมพันธ์ ทล. และ กทพ. ได้หารือร่วมกัน โดยจัดตั้งศูนย์ Single Command Center ที่บริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน ติดตั้งระบบ CCTV บริเวณจุดวิกฤต จุดที่มีการก่อสร้าง และจัดให้มีป้ายบอกทางเคลื่อนที่ (VMS) บริเวณจุดสำคัญต่าง ๆ ซึ่ง ทล. อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาและติดตั้ง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2562 จากนั้นจะสื่อสารข้อมูลการจราจรและแผนการก่อสร้างให้กับประชาชนรับทราบในทุกช่องทาง
– มิติการเร่งรัดการก่อสร้าง โดยปรับแผนก่อสร้างให้สามารถดำเนินการแล้วเสร็จตามสัญญา ซึ่ง ทล. ได้อนุมัติการขยายสัญญาโครงการปรับปรุงฯ และได้ปรับแผนงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญาที่ปรับใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ปัจจุบันผลงานรวมตามแผนงานใหม่คืบหน้า 35.294% เร็วกว่าแผนงาน 4.264% รวมถึงรับข้อเสนอแนะของคณะทำงานฯ ที่กำหนดให้ระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดในงานแต่ละรายการให้ชัดเจน โดยเฉพาะงานก่อสร้างที่มีผลกระทบกับการจราจรไปดำเนินการแล้ว
– มิติการบริหารการจราจร โดยปรับเปลี่ยนเวลาอนุญาตรถบรรทุกเข้า – ออก พื้นที่ อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการแปรนโยบายเร่งด่วนสู่การปฏิบัติ การจัดทำแผนการบริหารจราจร โดยจัดทำแผนบริหารการจราจรทุกครั้งก่อนเปิดพื้นที่ก่อสร้าง และจัดให้มีระบบการช่วยเหลือฉุกเฉิน อยู่ระหว่างการจัดตั้งหน่วยงาน เพื่ออำนวยการด้านความปลอดภัย และช่วยเหลือฉุกเฉิน
– มิติการบริหารพื้นที่ร่วมกับโครงการอื่น ๆ โดย ทล. และ กทพ. ได้บูรณาการจัดทำแผนการก่อสร้างในเบื้องต้นแล้ว
รัฐมนตรีว่ากระทรวงฯ ได้สั่งการให้ ทล. ตรวจสอบสภาพการจราจรบนถนนพระราม 2 อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามผลการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งให้จัดทำรายละเอียดการขยายสัญญาโครงการปรับปรุงฯ และทบทวนแผนการดำเนินงานก่อสร้างอีกครั้ง โดยให้นำเสนอในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า รวมถึงให้วางแผนการทำงาน การเข้าใช้พื้นที่ก่อสร้าง การประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชนและสื่อมวลชนในโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย บางใหญ่ – กาญจนบุรี เพื่อป้องกันผลกระทบกับประชาชนระหว่างการก่อสร้าง ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้วางแผนการดำเนินงาน การบูรณาการร่วมกันทำงานทั้งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ หน่วยงานในพื้นที่โครงการต่าง ๆ เพื่อให้โครงการของกระทรวงฯ เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง