หน้าแรก Article “สุเทพ” ตั้งพรรคใหม่

“สุเทพ” ตั้งพรรคใหม่

0
“สุเทพ” ตั้งพรรคใหม่
Sharing

ฟังสุ้มเสียงของบรรดาแกนนำกปปส.ใน ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา    เชื่อได้ว่า   “นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ” อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ คงเดินหน้าก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่แน่นอน  แม้จะเคยประกาศต่อสาธารณชนว่า จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก  หลังจากละทิ้งตำแหน่งสำคัญในพรรคเก่าแก่  เพื่อออกมาต่อต้านพรบ.นิรโทษกรรม

​ทั้ง “นายสาทิตย์  วงศ์หนองเตย ” และ “นายวิทยา แก้วภราดัย”  ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับ “นายสุเทพ”  ก็ออกมายืนยันว่า  ภารกิจปฏิรูปประเทศยังไม่เสร็จสิ้น   แต่เป้าหมายลึกๆจริง ต้องการสนับสนุน  “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หัวหน้า คสช. ให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ภายหลังการเลือกตั้ง

​เพราะอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่า ถ้าได้หัวหน้ารัฐบาลคนปัจจุบัน  เข้ามารับตำแหน่งนายกฯอีกครั้งหนึ่ง กระบวนการขุดรากถอนโคน “ระบอบทักษิณ” ที่หยั่งรากลึกอยู่ในสังคมไทย  จะทำได้อย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพ   เนื่องจากมีสามเหล่าทัพช่วยสนับสนุนอยู่

​จึงไม่แปลกที่มีข่าวว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยทำใจไว้แล้วว่า จะยอมเป็นพรรคฝ่ายค้าน   โดยเชื่อว่าไม่มีทางจะได้เสียงส.ส.เกิน 200  เสียง  ด้วยเหตุที่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคขนาดกลางและเล็ก   จึงไม่แปลกที่ระยะหลัง  เครือข่ายระบอบทักษิณ  จะพยายามสร้างกระแสว่า พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงเกินครึ่ง หรือเกิน 220 เสียง หวังให้สังคมเชื่อในข้อมูลที่สื่อสารออกมา

​แม้กระทั่งความพยายามต่อสายไปถึง “พรรคประชาธิปัตย์”  ของแกนนำพรรคเพื่อไทย เพื่อขอตั้งรัฐบาลสองพรรค  ยอมเปิดทางให้ “นายชวน หลีกภัย”   ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์  ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ  แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากพรรคการเมืองเก่าแก่   ด้วยเหตุที่ว่า ผู้มีอำนาจตัดสินใจในพรรคประชาธิปัตย์ คงประเมินแล้วว่า  ถ้ารับข้อเสนอดังกล่าว  เท่ากับพรรคจะถูกกระแสสังคมโจมตีทันที   เพราะก่อนหน้านี้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายประชานิยม  และการออกกฎหมายล้างผิดแบบสุดซอย

​ขณะที่พรรคการเมือง ซึ่งนายสุเทพจะทำคลอดขึ้นมาใหม่นั้น มีข่าวว่าได้ทาบทาม “พล.ต.อ. อัศวิน  ขวัญเมือง”  ผู้ว่าราชการกรุงเทพหานคร (กทม.) ให้เข้ามาเป็นเลขาธิการพรรค  ด้วยเชื่อมั่นในความใจถึง  พึ่งได้ และกล้าได้กล้าเสีย

ส่วนหัวหน้าพรรคนั้นมีการทาบทามบุคคลไว้หลายคน  โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อ “นายศุภชัย พาณิชภักดิ์”   ซึ่งได้รับการยอมรับจากแวดวงสังคมไทยและนานาชาติพอสมควร

​ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดเดิมของนายสุเทพนั้น   อดีตแกนนำกปปส.เชื่อว่า  จะโน้มน้าวให้สมาชิก  หันมาให้การสนับสนุน “พล.อ. ประยุทธ์” ได้ไม่ยาก  เพราะช่วงเป็นเลขาธิการพรรค  คอยรับหน้าที่ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายและการเตรียมการเลือกตั้ง  ซึ่งตามธรรมชาติของพรรคการเมืองเก่าแก่  มักมีปัญหาเรื่องการระดมทุนเป็นประจำ

​แม้กระทั่งการมอบหมายให้ “นายกษิต  ภิรมย์”  อดีตรมว.ต่างประเทศ เข้าไปช่วยเหลือ และดูแลสมาชิกพรรคในช่วงไม่ได้ทำกิจกรรมการเมือง   ดังนั้นจะสังเกตเห็นว่า    มีเพียงสมาชิกพรรคสาย “นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ”  เท่านั้น  ที่ออกให้ข่าวโจมตีแกนนำ คสช.

​ขณะที่ท่าทีของ  “นายอภิสิทธิ์” เมื่อถูกถามถามถึง  กรณีนายสุเทพเตรียมตั้งพรรค ขึ้นมาสนับสนุน  พล.อ. ประยุทธ์ว่า “เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ และจะต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งผมไม่กังวลที่กรณีดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อสมาชิกพรรคที่ยังมีบางส่วนศรัทธาในตัวนายสุเทพ”

​เพราะถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะตัดสินใจ จะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อหรือไม่ แต่ตอนนี้สมาชิกพรรคยังไม่มีบุคคลใดลาออก และแนวความคิดของพรรคประชาธิปัตย์ได้ยืนหยัดในอุดมการณ์มาโดยตลอด ที่พร้อมสนับสนุนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่กับนายสุเทพนั้น อาจมีแนวคิดที่ต่างกันในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกฯ ต่อ

​แต่สิ่งหนึ่งที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อาจไม่รู้คือ นอกจากสมาชิกพรรคจำนวนหนึ่ง ที่คอยยกยอปอปั้น  และประกาศสนับสนุน ให้เข้ามาชิงเก้านายกฯอีกรอบหนึ่ง  บุคคลนอกพรรคไม่ว่าจะเป็น  แกนนำคสช.  พรรคการเมืองต่างๆ   และบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม  ล้วนเข็ดขยาดต่อบทบาท และท่าทีของนายอภิสิทธิ์

​สำคัญมากกว่านั้น นอกเหนือจากเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง หลังจากเกิดเหตุสลายการชุมนุมของกลุ่มนปช.และคนเสื้อแดงเมื่อปี 53  “ผู้มากบารมี” ที่ทุกคนเกรงอกเกรงใจ  ก็รับไม่ได้กับบทบาทแลบะการตัดสินใจของ “หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์”

​อย่าลืมว่า  หัวหน้า คสช.เริ่มต้นด้วยเสียงสนับสนุน 250  เสียง    หาเสียงส.ส.อีกแค่ 125  คน  ก็คงไปต่อได้ไม่ยาก    ยิ่งมีกองทัพหนุนหลัง   เพราะจำนวนสมาชิกรัฐสภามีทั้งหมด 750 เสียง  กึ่งหนึ่งคือ 375  เสียง  และอย่าลืมว่า  ไม่มีทางที่ “ประชาธิปัตย์” จะยอมจับมือกับ “เพื่อไทย”   แคนี้ก็พอมองออกแล้วว่า ใครจะต้องรับบท “โดดเดี่ยวผู้น่ารัก” ภายหลัง

การเลือกตั้ง

​​​​​​​​​​           ​“อโศกมนตรี ”


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่