ชื่นมื่นกับการเดินสายลงพื้นที่สมุทรสาคร และเพชรบุรี ของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี ที่ไปพร้อมกับโปรเจกพัฒนาภาคกลางตอนล่าง สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ พร้อมขายฝัน ทุ่มเงิน 1.8 พันล้านบาท ปั้นสมุทรสาครเป็น “ฮับอาหารทะเล”
ขณะเดียวกันยังโชว์ลูกเฮี๊ยบ เรียกฝ่ายปกครอง กำชับให้ดูแลเรื่องจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ที่แสนล่าช้า กระทบธุรกิจประมงในท้องที่ ขู่ข้าราชการ ซื้อใจประชาชน เล่นบทถนัดของนายกฯ ลุงตู่
พิสูจน์ชั้นเชิงรัฐบาลทหาร ยิ่งใกล้เลือกตั้ง คิวลงพื้นที่ยิ่งถี่ยิบ แถมลงไปแต่ละครั้ง หาได้มือเปล่า เพราะหนีบเอาความหวังของแต่ละพื้นที่ไปด้วย
นับย้อนไปช่วงกลางเดือนมกราคม เปิดฉากด้วยการลงพื้นที่จังหวัดนครปฐม ติดตามการดำเนินงานของโครงการในพระราชดำริ ที่มาพร้อมกับข่าวว่าบิ๊กตู่ดอดพบครอบครัว “สะสมทรัพย์” ในความสงสัยว่าไปทำ “ดีลลับ” ก่อนที่ข่าวจะเงียบหายไป
ต่อมาช่วงปลายเดือนเดียวกัน ขยับลงภาคตะวันออก ที่จังหวัดจันทบุรี และตราด ตามมาด้วยการขายของ จะปั้นจันทบุรีให้เป็น “เมืองผลไม้” เรียกเสียงเฮจากชาวบ้าน ที่หวังรายได้เข้ากระเป๋า ยกระดับปากท้อง ด้านนักการเมืองในท้องถิ่นสลัดคราบเกลียดทหาร เฮโลมาต้อนรับ นายกฯตู่ กันครบทุกคน
นำทีมโดย นาย สนธยา คุณปลื้ม อดีตรมว.วัฒนธรรม หัวหน้าพรรคพลังชล ,และอดีตส.ส.ชลบุรี นาย สันต์ศักดิ์ จรูญ งามพิเชษฐ ,นาย สุชาติ ชมกลิ่น ,นาย รณเทพ อณุวัฒน์ ,นาย พันธ์ศักดิ์ เกตุวัตถา, นาย ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ,นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์, นาย จิติล คุ้มครอง และนาย สัมฤทธิ์ พงษ์วิรัตน์ รองเลขาธิการพรรคพลังชล และ 2 อดีต ส.ส.จันทบุรี และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ระยอง นาย สาธิต ปิตุเดชะ ตลอดจนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและผู้นำท้องถิ่นเช่น นาย วิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี, นาย ทรงยศ เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว เป็นต้น
ก่อนกลับ นายกฯบิ๊กตู่ โปรยความหวัง สัญญาจะเร่งโครงการความเร็วสูงกรุงเทพ ระยอง หาเสียงล่วงหน้า ขณะที่นักการเมืองมองตาปริบๆ
มอง “นายกตู่” โปรยสัญญาว่าจะให้ ต่อหน้าต่อตา
มาล่าสุด ขยับออกซ้าย มาที่พื้นที่ 4 จังหวัดรอยต่อ กรุงเทพ–ภาคใต้ พร้อมไอเดียปั้นสมุทรสาครเป็น “ฮับอาหารทะเล”
จะพบว่าการลงพื้นที่ เป็นไปตามแผนไทยนิยม ที่ รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ เคยกล่าวในรายการ Ringsideการเมือง ว่า เป็นโครงการต่อยอดมาจากประชารัฐ แต่ปรับให้เงินลงไปถึงชาวบ้านมากขึ้น เพราะสำรวจแล้วว่า การให้งบกับนายทุนไปจัดการ ปรากฏว่า ไม่ช่วยให้ความนิยมของรัฐบาลดีขึ้น สู้รัฐบาลอัดฉีดเงินโดยตรงไม่ได้ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด จับต้องได้ จึงเป็นที่มาของ “โครงการไทยนิยม”
หากนำข้อมูลมาบวกลบคูณหารสมการการเมืองไทย ที่พรรคใหม่เปิดตัว และเกือบครึ่ง เตรียมชู “ลงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี ชัดเจนว่า “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” หนีไม่พ้นต้องลงสู้ในสนามการเลือกตั้ง ที่น่าจะเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2562
เป็นการต่อสู้กับพรรคการเมืองกว่า 100 พรรค ในกติกาที่เท่าเทียมกัน
ในการแข่งขัน เมื่อต้องลงมาในสนามที่มีคู่แข่ง “บิ๊กตู่” และ “คสช.” จึงประมาทไม่ได้ “ความได้เปรียบ” มีเท่าไร ต้องใช้ให้หมด
จงอย่าแปลกใจหากเห็น “บิ๊กตู่” และคณะออกตัวแรงหาเสียงล่วงหน้า สัญญาว่าจะให้ไปทั่ว
ทั้งหมดเป็นไปเพื่อช่วงชิง “ผลเลิศ” ทางการเมือง ให้สำเร็จตามเป้า “นายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้ง”
Ringsideการเมือง
คลิปประกอบ : https://www.youtube.com/watch?v=UK24UbKJDfo&t=2089s