หน้าแรก news “ดิเรก” ฟันธงฐานเสียงปชป.ภาคใต้หด แนะทุกพรรคมีสปิริตยอมรับเสียงประชาชน

“ดิเรก” ฟันธงฐานเสียงปชป.ภาคใต้หด แนะทุกพรรคมีสปิริตยอมรับเสียงประชาชน

0
“ดิเรก” ฟันธงฐานเสียงปชป.ภาคใต้หด แนะทุกพรรคมีสปิริตยอมรับเสียงประชาชน
Sharing

นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยถึงสถานการณ์การเมืองภายใต้บรรยากาศแห่งคณะรักษาความสงบหรือคสช.และรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ว่า พรรคที่เกิดขึ้นมาใหม่ จำเป็นที่จะต้องมีความชัดเจนในเรื่องของนโยบาย หัวหน้าพรรคหรือผู้นำพรรคต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียง หากประชาชนมองแล้วว่าไม่น่าเชื่อถือหรือมีความเชื่อว่าเป็นพรรคที่เป็นนอมินีของพรรคใหญ่ ประชาชนเขาก็ไม่เลือก แต่จากระบบการเลือกตั้งใหม่ ก็ส่งผลให้พรรคที่เกิดขึ้นมาใหม่ ยังคงมีความหวังว่าจะได้ส.ส.ที่มาจากระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม สุดท้ายพรรคเหล่านี้ก็จะไปซุกอกพรรคใหญ่ในที่สุด การเขียนรัฐธรรมนูญแบบนี้ ที่ผ่านมามีการทักท้วงไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญว่าระบบที่นำมาใช้ไม่เหมาะกับการเมืองไทยและสังคมไทย  รวมทั้งจากระบบดังกล่าว สุดท้ายรัฐบาลที่ได้มาจะเป็นรัฐบาลที่อ่อนแอ เกิดการต่อรองทางการเมืองเป็นจำนวนมาก สุดท้ายรัฐบาลก็จะไปไม่ได้ ต้องยุบสภาในที่สุด

นายดิเรก กล่าวต่อว่า  ภายหลังการเลือกตั้งแล้วตนอยากให้ทุกพรรคเคารพเสียงของประชาชน เพราะเมื่อประชาชนมีมติให้พรรคใดพรรคหนึ่งเป็นพรรคที่ได้จำนวนส.ส.มากที่สุดเป็นแกนนำหลักในการรวบรวมเสียงส.ส.ฟอร์มทีมในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะนี่คือหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องยอมรับในมติของประชาชน พรรคอันดับรองลงมาต้องมีจิตสำนึกทางการเมือง มีสปิริตทางการเมือง ในการยอมรับมติของประชาชน ทั้งนี้หากพรรคเพื่อไทยได้เสียงมาเป็นอันดับ1 ก็มีความชอบธรรมในการรวมจำนวนส.ส.เพื่อจัดตั้งรัฐบาล พรรคที่ได้อันดับ 2 ไม่ควรที่จะมาตีรวนในการจัดตั้งรัฐบาล

นายดิเรก กล่าวด้วยว่า การจัดตั้งพรรคของกลุ่มกปปส.เป็นเรื่องที่ไม่เกินคาดหมาย แม้ที่ผ่านมานายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส.ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง สุดท้ายเมื่อมีแนวคิดในการจัดตั้งพรรคการเมือง ก็ไม่แปลกใจ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะส่งผลโดยตรงต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน เพราะทั้งกปปส.และประชาธิปัตย์เป็นกลุ่มเดียวกัน  จึงมีฐานเสียงมาจากฐานเดียวกัน

ในขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า ความนิยมของประชาธิปัตย์ในภาคใต้ก็ลดลง ผลมาจากการที่พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมมือกับคสช.ในการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อเปิดทางให้ทหารเข้ามายึดอำนาจหวังดึงราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะราคายางมีการปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นเมื่อประชาธิปัตย์และกปปส.เพลี่ยงพล้ำก็เปิดทางให้พรรคอื่นเข้ามาเบียดแทรกพื้นที่ได้ ดังนั้นการเกิดขึ้นของพรรคกปปส.ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดยุทธศาสตร์แยกกันเดิน รวมกันตี สุดท้ายเชื่อว่าทั้งพรรคกปปส.และพรรคประชาธิปัตย์ก็มารวมกันในที่สุด  นอกจากนี้จากปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้คนรุ่นใหม่ในภาคใต้ก็เริ่มถอยห่างจากพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นจำนวนหนึ่ง สุดท้ายคือพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้กุมหัวใจคนภาคใต้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ปัจจัยหลักคือปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ความสำคัญมากนักกับการแก้ปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่