ต้องขอบคุณ “น้องแบม” ปณิดา ยศปัญญา นักศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่กล้าร้องเรียนการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ระหว่างไปฝึกงาน ด้วยเห็นความไม่ชอบมาพากล ระหว่างโดนบีบให้ทำเอกสาร “ทุจริต” เบิกเงินเข้าบัญชีผี ที่ “น้องแบม” ปฏิเสธ จนทำให้เธอถูกกลั่นแกล้งสารพัด
หนักเข้าถึงจะไล่ออกจากการฝึกงาน เธอทนไม่ไหวจึงไปร้องหน่วยงานภาครัฐ เรื่องบานปลาย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ภายใต้การนำของ พ.ท. กรทิพย์ ดาโรจน์ เลขาธิการป.ป.ท. เร่งเดินหน้าสอบสวนตามข้อร้องเรียน ขยายผลไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ พบการทุจริตมากมาย
พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท.เผยว่า ก่อนหน้านี้พบศูนย์ฯ ที่มีพฤติกรรมทุจริต 24 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ขอนแก่น บึงกาฬ หนองคาย น่าน ตราด สุราษฎร์ธานี สระแก้ว อุดรธานี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กระบี่ ตรัง ร้อยเอ็ด ยะลา พัทลุง ชุมพร สุรินทร์ อ่างทอง พิษณุโลก ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สงขลา และนราธิวาส
ล่าสุด ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบศูนย์ฯ มีพฤติกรรมทุจริตเพิ่มอีก 20 จังหวัด คือ มหาสารคาม ลำพูน นครราชสีมา อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี นครพนม กาฬสินธุ์ พิจิตร ราชบุรี นครปฐม มุกดาหาร ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก อุทัยธานี สตูล ลพบุรี และหนองบัวลำภู
“ขณะนี้รวมที่พบทุจริตแล้ว 44 จังหวัด จากทั้งหมด 76 จังหวัด”
ทำเอานักการเมืองตลกลั่น ไหนว่าหมดยุคนักการเมืองแล้ว ถนนจะเป็นทองคำ ดูท่าจะไม่จริง เพราะไปๆมาๆ ชัดเจนว่า ข้าราชการนี่แหละ “ตัวดี”
ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก
ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการตรวจพบการทุจริตเงินทุนการศึกษาเด็กนักเรียนยากไร้ โดยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตรวจสอบบัญชีงบประมาณประจำปี 2560 ของสำนักงานปลัด ศธ. พบว่ามีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต โดยมีการโอนเงินทุนการศึกษาของนักเรียนในโครงการเข้าบัญชีของบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2551-2561 เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 88 ล้านบาท
แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องขยาย
จะนิ่งนอนใจไม่ได้แล้ว สำหรับ “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศตอนนำทหารเข้ามายึดอำนาจว่า มาปราบโกง แต่ไฉน จึงปรากฏข่าวให้เห็นรายวัน แถมพักหลังจะบอกว่า “เกมการเมือง” คงไม่ใช่ เพราะผู้ต้องสงสัย หาได้มีส่วนได้เสียกับรัฐบาล และเป็นเป้าโจมตีของฝ่ายการเมืองที่ต้องการจะบี้แผล ให้ติดเชื้อเผื่อฟลุค ได้คุมเกมอำนาจ
เพราะเคสหลัง ล้วนเป็นเรื่องของข้าราชการทั้งนั้น ก็น่าสงสัยว่า “รัฐบาล บิ๊กตู่” ดูแลดีไม่พอหรืออย่างไร เพราะที่ผ่านมาก็จัดแพ็คเกจช่วยเหลือข้าราชการ น่าจะหนำใจ ถึงได้ยังโกงให้เขาจับได้ กลายเป็นปัญหาให้รัฐบาลต้องตามล้าง ตามเช็ด
แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสเหมาะ เพราะก่อนหน้านี้ เรื่องเทาๆ ดำๆ ที่เกิดขึ้น “ทั้งนาฬิกาเอย เรือดำน้ำเอย ไมโครโฟน” ล้วนเกี่ยวกับ “บิ๊ก” หลายท่าน การทำงานขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะ ปปช. รวมไปถึงสภา จึงถูกโจมตีไปในทาง “ฟอกขาว” มากกว่ามุ่งเน้นจับคนผิดมาลงโทษ
แต่คราวนี้ มีแต่ข้าราชการตัวกระจ้อยที่เป็นจำเลย ไหนจะกระทรวงพัฒนาชุมชน ไหนจะกระทรวงศึกษา ล้วนไร้พาวเวอร์ ก็ถึงเวลาที่องค์กรอิสระ ทั้ง ปปช. ปปท. ทีมตรวจสอบของกระทรวง ทบวง กรม รัฐบาล จะได้โชว์ผลงานกันจริงๆ เสียที แน่นอนงานนี้ รัฐบาล ฝ่ายกุมอำนาจ ไม่มีไฟแดง
เปิดไฟเขียวโล่ง
เร่งสร้างคะแนน โชว์ผลงาน เรียกศรัทธาประชาชน
Ringsideการเมือง