นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยกับทีมข่าวริงไซด์การเมือง ถึง สถานการณ์การเมือง ว่า การเลือกตั้งในปี 2562 จะเกิดขึ้นได้เมื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. พร้อมให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ หรือ ต้องมั่นใจว่าสามารถกลับเข้ามาอยู่ในอำนาจอีกครั้ง ทั้งนี้ เมื่อพลเอกประยุทธ์คิดว่าพร้อมแล้วและมีการพูดคุยกับพรรคการเมืองจนสำเร็จแล้วก็จะให้เลือกตั้ง แต่หากไม่พร้อมก็จำเป็นที่จะต้องเลื่อนออกไปอีก รวมทั้งสถานการณ์ในขณะนี้กระแสของพลเอกประยุทธ์เริ่มแย่ลงอาจจะจัดให้เลือกเร็วขึ้นก็เป็นได้ เพราะหากปล่อยไว้นานก็อาจจะส่งผลกระทบต่อความนิยมในตัวพลเอกประยุทธ์ ซึ่งก็จะมีผลต่อการเลือกตั้งของพรรคที่จะสนับสนุน เพราะการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งของพลเอกประยุทธ์ต้องมีเสียงสนับสนุนจากส.ส.ไม่ต่ำกว่า 250 เสียงบวกกับจำนวนส.ว.ที่คสช.แต่งตั้งเข้ามา ถึงจะสามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้จะพบว่า พลเอกประยุทธ์ ใช้งบประมาณของรัฐในการลงพื้นที่พบปะประชาชน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพลเอกประยุทธ์ต้องการสร้างความนิยมให้กับคนนอกที่เป็นนายกรัฐมนตรี การอ้างลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์คือการหาเสียงล่วงหน้า นอกจากนี้ด้วยการที่พลเอกประยุทธ์มีอำนาจเหนือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ก็สามารถกำหนดได้ว่าจะให้เลือกหรือไม่เลือกอย่างไร หรือ เลือกเมื่อไหร่ อยู่ที่พลเอกประยุทธ์จะพร้อมหรือไม่พร้อม
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า วาทกรรมที่พลเอกประยุทธ์ใช้บ่อยในช่วงนี้คือ เลือกตั้งแล้ววุ่นวาย บวกกับมีแต่รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารเท่านั้นที่บ้านเมืองจะไม่วุ่นวาย การพยายามสร้างให้สังคมไทยเสพติดผู้มีอำนาจที่มีอาวุธอยู่ในมือ ซึ่งคสช.พยายามสร้างเงื่อนไขให้สังคมเกลียดนักการเมือง โดยการสร้างวาทกรรมว่านักการเมืองที่มาจากเลือกตั้งแล้วโกงกิน มีการเขียนรัฐธรรมนูญที่ตัดสิทธิ์นักการเมืองตลอดชีวิต และสร้างเงื่อนไขให้เชื่อว่ามีแต่คณะรัฐประหารเท่านั้นที่ดี และไม่วุ่นวายเหมือนที่ผ่านมา