พ.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงข่าวมาตรการรับมือฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของ กทม. ว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในวันที่ 22 ม.ค. 2563 ลมยังพัดไม่แรง อากาศยังปิด ค่าฝุ่น PM 2.5 จะยังมีแนวโน้มสูงอยู่ ซึ่ง กทม.จะมีการออกมาตรการเร่งด่วน 4 มาตรการ คือ
มาตรการที่ 1 มาตรการเหลื่อมเวลาในการทำงานของบุคลากร กทม. ที่ทำงานในส่วนของสำนักงานหรือแบ็คออฟฟิศ จำนวน 20,000 คน ในศาลาว่าการกทม. เสาชิงช้า และศาลาว่าการกทม.
มาตรการที่ 2 ดินแดง เพื่อช่วยลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนในช่วงเวลาเร่งด่วน ทำให้การจราจรมีความคล่องตัวขึ้น ติดขัดน้อยลง การแตะเบรกก็จะลดลง การเกิดมลพิษและฝุ่นควันก็ลดลงด้วย โดยให้เหลื่อมเวลาทำงานมาเป็นเวลา 10.00 – 18.00 น. แทน โดยยืนยันว่า ในส่วนของการบริการประชาชนตามสำนักงานเขตหรือทะเบียนราษฎร์ ยังคงให้บริการตามเดิม คือ เวลา 08.00-16.00 น. และหวังว่าจะเป็นต้นแบบให้แก่หน่วยงานอื่นๆ ดำเนินการ
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า 2.มาตรการปิดสถานศึกษาสังกัด กทม. ทั้งหมด 437 โรงเรียน ในวันที่ 22 ม.ค. 2563 เป็นเวลา 1 วัน เพราะค่าฝุ่นยังมีแนวโน้มสูง เพื่อลดการออกมาสัมผัสฝุ่นละออง การทำกิจกรรมภายนอก ซึ่งยอมรับว่า โรงเรียนหลายๆ แห่งของ กทม.ก็ยังไม่มีเครื่องฟอกอากาศที่เพียงพอ และลดการใช้รถใช้ถนนในการออกมาโรงเรียนหรือส่งลูกมาโรงเรียนในช่วงเวลาเร่งด่วนให้มากที่สุด ซึ่งเมื่อลดจำนวนรถยนต์ในช่วงเวลาเร่งด่วน ทั้งจากบุคลากร กทม.และการมาโรงเรียนแล้ว ก็เชื่อว่าจะช่วยในการลดค่าการเกิดฝุ่นจากยานพาหนะลงได้ ซึ่งฝุ่นควันจากไอเสียยานพาหนะยังเป็นปัจจัยหลักในการเกิดฝุ่นของ กทม. ส่วนจะปิดต่อเนื่องหรือไม่นั้น ยังต้องรอการประชุมหารือสถานการณ์ก่อน แต่ยืนยันว่าการปิดโรงเรียนจะไม่ให้กระทบกับการเรียน โดยอาจให้มีการเรียนเสริมในภายหลัง
มาตรการที่ 3 การแจกหน้ากากอนามัย ซึ่งที่ผ่านมามีการแจกภายในศูนย์อนามัยทั้ง 68 ศูนย์ทั่งกทม. โดยมีหน้ากากอยู่ประมาณ 4 แสนกว่าใบ โดยในช่วงวิกฤตเราจะมีการแจกเพิ่มเติมในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เพิ่มเติมอีก 7 สถานีที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก ได้แก่ หมอชิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อโศก ศาลาแดง สยาม วงเวียนใหญ่ และบางหว้า โดยจะเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. เป็นต้นไปในช่วงเวลาวิกฤต รวมทั้งสถานีรถเมล์
มาตรการที่ 4 ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่น ไม่สวมไม่ได้ เพราะปัญหาฝุ่นไม่ใช่ไม่ก่อผลกระทบสุขภาพ หากติดขัดเรื่องค่าใช้จ่ายในการซื้อ เราก็มีแจกอยู่ตามศูนย์อนามัยและสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ก็สามารถมาขอรับไปใช้ได้
เมื่อถามถึงเรื่องของการเผาในที่โล่ง ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่า เรามีมาตรการกวดขัยตลอดในเรื่องนี้ แต่ปัจจุบันเรื่องฝุ่น การเผาในที่โล่งใน กทม.แม้จะมี แต่ก็มีน้อย ส่วนใหญ่เป็นการเผาในต่างจังหวัดและประเทศอื่นมากกว่า ส่วนกทม.ยังมาจากไอเสียรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 72% ส่วนการเผาในที่โล่งได้รับรายงานว่าลดน้อยลงมาก และเราลงพื้นที่ตลอดในการกวดขัน ซึ่งหากพบก็จะเอาผิดตามกฎหมายทันที แต่ในส่วนของเทศกาลตรุษจีนที่จะมีการจุดธูปและเผากระดาษนั้น ยืนยันว่าไม่สามารถไปเอาผิดหรือจับกุมได้ เพราะเป้นคนละส่วน คงทำได้เพียงขอความร่วมมือในการลดการจุดและการเผาลง