เมืองอู่ฮั่นกลายเป็นเมืองเกือบร้างในพริบตาที่ทางการจีนประกาศห้ามเดินทางเข้าออกเมือง หรือจะเรียกว่า “ปิดเมือง” ก็ไม่ใช่ความเข้าใจที่ผิดนัก เรื่องของเรื่องมาจากมีหลักฐานชัดเจนว่า “ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่” ที่กำลังแพร่กระจายออกไปยังทั่วโลกนั้น มีต้นกำเนิดมาจากเมืองนี้ ส่วนสาเหตุของโรคยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้อย่างแน่ชัด บ้างก็ว่ามาจากการบริโภคงู บ้างก็ว่ามาจากการบริโภคค้างคาว
ทางการจีนยืนยันว่า ณ ปัจจุบัน 24/01/63 เวลาประมาณ 10.45 ตามเวลารประเทศไทย
พบชาวจีนติดเชื้อแล้วทั้งสิ้น 830 ราย เสียชีวิต 25 ราย
ขณะที่พบผู้ติดเชื้อในต่างประเทศแล้ว ทั้งที่สิงค์โปร์ เวียดนาม เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา และ “ไทย”
ข่าวดี
ทั้งนี้ การพบผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีน ยังไม่พบรายงานการเสียชีวิต
สำหรับประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อแล้ว 4 ราย เป็นชาวจีน 3 คน ชาวไทย 1 คน สามารถรักษาได้จนปลอดเชื้อ และส่งกลับประเทศ 2 ราย ส่วนอีก 2 ราย ตามรายงานข่าวระบุว่าได้รับการรักษาที่ห้องควบคุมพิเศษ และมีอาการดีขึ้นตามลำดับ
เท่ากับว่าไวรัสโคโรน่าพันธุ์ใหม่ “รักษาได้”
ตื่นตัว ไม่ตื่นตูม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นบุคคลแรกๆ ที่ตื่นตัวกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะทันทีที่มีรายงานการพบโรคระบาดสายพันธุ์ใหม่ จากเมืองอู่ฮั่น นายอนุทินได้เข้าไปเช็กระบบการตรวจคัดกรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินหลักทั่วประเทศ ก่อนจะขยายมาตรการการควบคุมออกไปเรื่อยๆ
“มาตรฐานการควบคุมโรค เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ซึ่งได้หารือกับผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกอย่างต่อเนื่อง ท่านชมว่าทางการไทยจัดการปัญหาได้ดี จากนี้จะมีการประชุมร่วมกันระหว่าง ผอ.องค์การอนามัยโลก และ รมว.สาธารณสุขของประเทศที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับยกย่องให้เป็นประเทศต้นแบบ ในเรื่องของการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชน เพราะเราเปิดเผยข้อมูล เพื่อให้ประชาชนรู้และเข้าใจสถานการณ์ ให้รู้จักป้องกันตนเองและไม่ตื่นตระหนก”
นายอนุทิน ยืนยัน
เขาเชื่อมั่นว่าระบบสาธารณสุขของไทยมีประสิทธิ์ภาพ เพราะเคยประสบกับภาวะโรคระบาดเช่นนี้แล้ว ทั้งจากกรณีโรคซาร์ส โรคเมอร์ และไข้หวัดนก และสามารถจัดการได้อย่างดีเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้วิงวอนขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเอง
“ขอให้ประชาชนระมัดระวังการติดเชื้อระหว่างที่เดินทางไปต่างประเทศ ดูแลสุขภาพ หลีกเลี่ยงการไปตลาดที่ขายซากสัตว์ป่าหรือสัตว์ที่มีชีวิต หลีกเลี่ยงที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก ไม่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม หรือมีน้ำมูก สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ กินอาหารปรุงสุกร้อน ผู้ที่มีอาการไข้กับอาการไอจามมีน้ำมูกเหนื่อยหอบและมีประวัติเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นให้รีบไปโรงพยาบาล พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางไปต่างประเทศให้แพทย์ทราบเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อ ไปมีข้อสงสัยให้สอบถามสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422”
“ร่างกายแข็ง ย่อมมีภูมิต้านทานโรคที่ดีกว่า”
สู้ไวรัสรุ่นพี่ไม่ได้
เป็นข้อมูลที่ได้รับจาก ดร.นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ซึ่งระบุว่าความรุนแรงของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่อยู่ระหว่าง ซาร์ส เมอร์ส และไข้หวัดธรรมดา
อัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อดังกล่าวมีไม่ถึง 5% ขณะที่ผู้เสียชีวิต ก็ล้วนมีโรคประจำตัวทั้งสิ้น
เมื่อเปรียบเทียบกับ ‘ซาร์ส’ จะพบว่าผู้ป่วยมีอาการป่วยและเสียชีวิตคิดเป็น 10% หรือ 1 ใน 10 ของผู้ป่วย ส่วน ‘เมอร์ส’ ผู้ป่วยมีอาการป่วยและเสียชีวิตคิดเป็น 30% หรือ 1 ใน 3 ของผู้ป่วย
ความรุนแรงของเชื้อไวรัสโคดรน่าสายพันธุ์ใหม่ จึงมิได้ดุเดือด เมื่อเทียบกับไวรัสรุ่นพี่
เทศกาลตรุษจีน
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้สั่งการให้สถานพยาบาลทุกแห่งยกระดับมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค ตามมาตรฐานสูงสุดที่ใช้สำหรับโรคติดต่ออุบัติใหม่ พร้อมยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินเพื่อตอบโต้สถานการณ์เป็นระดับ 3 รวมทั้งเพิ่มระบบการคัดกรองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในสนามบินทั้ง 5 แห่ง เฝ้าระวังผู้ป่วยทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชน มีระบบคัดแยกโรคและผู้ป่วยที่รวดเร็ว จัดทีมแพทย์พยาบาลและบุคลากรที่ผ่านการอบรมในการวินิจฉัยโรค ตรวจทางห้องปฏิบัติการทราบผลใน 24 ชั่วโมง จัดให้มีแนวทางการรักษาพยาบาลตามมาตรฐานสากล พร้อมประสานกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งบริษัททัวร์เฝ้าระวังดูแลนักท่องเที่ยว ทั้งที่เดินทางมาในประเทศไทยและคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3-21 ม.ค. 2563 ได้คัดกรองไปแล้วจำนวน 123 เที่ยวบินจากเมืองอู่ฮั่น มีผู้โดยสารและลูกเรือจำนวนทั้งสิ้น 19,480 คน
Ringsideการเมือง