นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่างบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา จะเกิดปัญหาในการบังคับใช้ โดยที่ผ่านมาในการจัดทำงบประมาณปี 2563 ตั้งแต่ขั้นตอนการพิจารณาไปจนถึงขั้นตอนการอภิปรายในสภาในวาระ 2 จนถึงวาระ 3 พรรคฝ่ายค้านให้ความร่วมมือมาตลอด
ที่เป็นเช่นนี้เพราะพรรคร่วมเพราะตระหนักว่างบประมาณมีความสำคัญสำหรับการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ยิ่งประเทศกำลังมีปัญหาทางเศรษฐกิจ เงินงบประมาณจำนวน 3.2 ล้านล้านบาท จึงมีความสำคัญมาก ดังนั้นพรรคฝ่ายค้านให้ความร่วมมือในการจัดทำงบประมาณมาโดยตลอด เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากการลงทุนภาครัฐที่มาจากงบประมาณแผ่นดิน
นายการุณ กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดมาจากฝ่ายรัฐบาลที่ไม่เกรงกลัวการทำผิดกฎหมาย เพราะจะมีผู้มีอำนาจหาทางออกให้ทุกเรื่อง แต่การกระทำผิดโดยการกดบัตรแทนกันจะหาทางออกว่าอย่างไร เพราะกฎหมายบอกว่าผิดก็คือผิดจะพยายามหาทางออกบอกว่าช่วยกดแทนก็ฟังไม่ขึ้น เพราะกฎหมายบอกว่าต้องลงมติดังกล่าวด้วยตัวเอง ดังนั้นการกระทำดังกล่าวของพรรคฝ่ายรัฐบาลคือตั้งใจทำผิดกฎหมาย
“เชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมหาทางเพื่อแก้ปัญหางบประมาณเบิกจ่ายไม่ทันกับแผนงานที่กำหนดไว้ คาดว่า รัฐบาลจะหาทางออกโดยการใช้อำนาจพิเศษเพื่อออกพระราชกำหนด ในการเบิกจ่ายงบประมาณ เป็นการกระทำที่ขัดหลักการประชาธิปไตย ทั้งนี้หากรัฐบาลหาทางออกไม่เจอคงใช้วิธีการนี้เพื่อให้ได้มา โดยไม่สนวิธีการว่าจะเป็นไปตามหลักกฎหมาย เพราะรัฐบาลเน้นหลักกูมากกว่าหลักประชาธิปไตย
“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดเสมอว่าทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ปัญหาที่เกิดคือส.ส.ของฝ่ายรัฐบาลไม่เคารพกฎหมาย ดังนั้นปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ที่ล่าช้าเกิดมาจากฝ่ายรัฐบาลจงใจให้ล่าช้า พฤติกรรมส.ส.ของฝ่ายรัฐบาลส่งผลให้ประเทศเกิดวิกฤติอย่างแท้จริง”