ผศ.ดร.เชาวฤทธิ์ เชาว์แสงรัตน์ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงความท้าทายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวัย 64 ปี ว่า พลเอกประยุทธ์ จะบริหารความชอบธรรมที่ลดน้อยถอยลงอย่างไร ในภาวะที่ต้องประคองทั้งตัวเอง และรัฐบาลไปจนถึงการเลือกตั้ง ที่อาจหมายถึงหลังเลือกตั้งด้วย เพราะต้องยอมรับว่ารัฐบาลอยู่มานาน แต่กลับไม่สามารถสร้างผลงานให้ประชาชนรู้สึกว่ารัฐบาลทหารดีกว่ารัฐบาลพลเรือน ทั้งปัญหาคอรัปชั่น ปัญหาการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่ เชื่อว่ารัฐบาลเองก็ทราบดี แต่รัฐบาลก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างที่ใหญ่มาก และอำนาจของรัฐบาลก็ไม่มีพลังไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตรงนั้น แต่ต้องอยู่รับใช้โครงสร้างไปก่อน ที่สำคัญ เมื่อลงมาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง
“รัฐบาล และพลเอกประยุทธ์เหมือนคนแก่บนหลังเสือ อยากลงแต่ลงไม่ได้ เพราะมีเสือจ้องรุมกัดอีกหลายตัว”
ด้านนายอาทิตย์ ทองอินทร์ นักวิชาการประจำวิทยาลัยรัฐกิจ ม.รังสิต ระบุว่า อยากให้พลเอกประยุทธ์ มีความชัดเจนเรื่องนายกคนนอก การที่พลเอกประยุทธ์ตอบแบบแทงกั๊กเรื่องนี้ไม่เกิดประโยชน์ เพราะจะสร้างความสับสนให้แก่สังคม เกี่ยวกับเจตนารมณ์ของผู้นำประเทศ ควรตอบให้ชัดเจนไปเลย โดยไม่ต้องกังวลปฏิกิริยาของประชาชน เพราะนิด้าโพลบอกว่าคะแนนนิยมตัวท่านประยุทธ์มาเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว
การแก้ไขคอรัปชั่น เป็นหนึ่งในวาระที่ คสช. อ้างเพื่อเข้ามาทำหน้าที่ แต่หลายกรณีตอบข้อข้องใจของสังคมไม่ได้ โดยเฉพาะกรณีข้อกล่าวหาว่าคอรัปชั่นที่เกี่ยวข้องกับพวกพ้อง ถ้ายังไม่เคลียร์ แรงเสียดทานทางการเมืองจะยิ่งสูง กระทบชิ่งไปทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ปปช. พลอยติดร่างแหเป็นจำเลยของสังคมไปด้วย การสร้างบรรยากาศที่ผู้คนเชื่อมั่น ไว้วางใจในระบบกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เป็นเรื่องสำคัญในระยะยาวต่อความมั่นคงแห่งชาติ มากกว่าเสถียรภาพของรัฐบาลซึ่งเป็นเรื่องระยะสั้น
ขอบคุณภาพ : waymagazine / NDT