นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ในพื้นที่จัดหวัดเชียงใหม่ไม่ต่างจากเมืองร้าง เพราะจากปัญหาไฟไหม้รายวันที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เพิ่มปริมาณหมอกควันพิษในพื้นที่หนักขึ้น ล่าสุดฝุ่นพิษPM.2.5 มีค่าเฉลี่ยแตะ 1,000มคก./ ลบ.ม.
เกินค่าเฉลี่ยไปสูงมากซึ่งเป็นอะไรที่น่ากลัวและรับไม่ได้เลย
ปัจจุบันชาวเชียงใหม่ต้องเอาตัวรอด หรือ หาทางรอดเอง ไม่สามารถพึ่งพาหน่วยงานรัฐได้ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าเชียงใหม่เผชิญวิกฤติทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านสุขภาพอนามัย หนักมาก จากหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้แม้หน่วยงานรัฐจะมีการจัดตั้งศูนย์แก้ปัญหาหมอกควันแต่ก็ยังไม่มีมาตรการแก้ปัญหาอย่างชัดเจนและจับต้องได้จากหน่วยงานดังกล่าว
นายจักรพล กล่าวด้วยว่า จากการเชิญหน่วยงานภาครัฐมาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน พบว่าหน่วยงานภาครัฐไม่มีการเตรียมการในการรับมือวิกฤติที่เกิดขึ้น รวมทั้งการวางแผนงานในระยะยาว ว่าจะทำอย่างไร รัฐบาลไม่ดูแลหรือไม่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง แต่กับใช้นโยบายทอดทิ้งไทย
ให้เอกชนและชาวเชียงใหม่ต้องแก้ปัญหากันเอง มีเสียงสะท้อนมากมายจากทุกองค์กรและทุกภาคส่วนถึงการแก้ไขปัญหาที่ไม่ชัดเจน ไม่ตรงจุด และไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย
“เมืองเชียงใหม่เข้าสู่หายนะเต็มรูปแบบ รัฐบาลทิ้งปัญหาทุกอย่างไว้ไม่ให้ความสนใจ ปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาทุกปี เรื้อรัง การเผาป่าแม้เราไม่เผาแต่ประเทศที่มีพื้นที่ติดกับประเทศไทยก็เผา หมอกควัน ฝุ่นพิษ ก็พัดมาประเทศไทยอยู่ดี ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเจ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน และยกระดับการแก้ปัญหา เพื่อช่วยกันแก้และวางแผนร่วมกันในภาพรวม
ที่ผ่านมารัฐบาลไม่พยายามทำอะไรที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้เลย แม้นการมาเยือนของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ไม่ได้มอบนโนบายหรือแนวทางการทำงานที่จับต้องได้ จึงน่าห่วงใยมากๆว่า นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ ซึ่งมีอำนาจเต็มมือแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ชาวเชียงใหม่ได้ มีแต่ทำให้ประชาชนเผชิญแต่ความยากลำบาก อยากขอเรียกร้อง ให้รัฐบาล ออกมาตราการแก้ไขปัญหา ที่เป็นรูปธรรม ชัดเจน และทำทันที ในการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ อย่างจริงจังดวย ”นายจักรพล กล่าว