หน้าแรก Article เด็กจบใหม่สยอง ! เปิดตัวเลขคนว่างงานพุ่งครึ่งล้าน

เด็กจบใหม่สยอง ! เปิดตัวเลขคนว่างงานพุ่งครึ่งล้าน

0
เด็กจบใหม่สยอง !  เปิดตัวเลขคนว่างงานพุ่งครึ่งล้าน
Sharing

เป็นตัวเลขที่น่าตกใจอย่างยิ่ง เมื่อสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดตัวเลขคนว่างงาน ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากปี 2559 และมีแนวโน้มว่าจะลดลงอีก โดย สำนักงานสถิติแห่งชาติ รายงานภาวะการว่างงาน เดือน ธ.ค.2560 ที่ผ่านมาพบว่า อัตราการว่างงานอยู่ที่ 1% และมีผู้ว่างงาน 364,000 คน แต่หากมาดูในปี 2561 จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติได้รายงานตัวเลขการว่างงาน เดือน ก.พ.2561 มี 491,000 คน หรือคิดเป็นอัตราว่างงาน 1.3% โดยมีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 61,000 คน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 ซึ่งอัตราว่างงานในขณะนั้นอยู่ที่ 1.1% และเมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.2561 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 16,000 คน ซึ่งอัตราว่างงานเท่ากันคือ 1.3%

บรรดานักศึกษาที่จบใหม่หรือที่กำลังศึกษาอยู่ กำลังเผชิญความเสี่ยง “เตะฝุ่น”  และจาสาการที่รัฐบาลเปิดให้มีการใช้บัตรสวัสดิการ รูดปรื้ด พบว่ามีคนที่จบการศึกษระดับปริญญาเอก โท ตรี มีลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก โดยกรณีนี้นายกฤษฎา  จีนะวิจารณะ  ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า การคัดเลือกคุณสมบัติผู้มีรายได้น้อยตามเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด  จากยอดลงทะเบียนทั้งหมด 14.1 ล้านคน  เหลือ 11.6 ล้านคน  ตัดกลุ่มผู้มีรายได้-เงินฝากเกิน และที่ดินเกินกว่ากำหนด รวมแล้ว 2.5 ล้านราย  ขณะเดียวกัน พบว่าผู้ที่มีการศึกษาสูง ทั้งระดับ ดร. มาลงทะเบียนด้วยมากถึง 600 คน และระดับปริญญาโท กว่า 1,000 คน จึงต้องเร่งตรวจสอบว่าคนกลุ่มนี้มีปัญหาอะไร  

ส่วนสวัสดิการที่ให้กับกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี  จำนวน 7-8 ล้านคน เบื้องต้นกำหนดให้มาลงทะเบียนใหม่ ระยะที่ 2 เพื่อยืนยันตัวตน และน่าจะจ่ายเงินได้ในต้นปี 2561 แต่ต้องพิจารณางบประมาณด้วย  ซึ่งจะกำหนดเงื่อนไขด้านต่างๆ ทั้งการทำบัญชีครัวเรือน การฝึกอบรมทำอาชีพให้ความรู้  ต้องมีรายได้ต้องสูงกว่าเดิมในปีถัดไป เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำตามข้อกำหนด    

สำหรับฐานข้อมูลผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจคุณสมบัติ 11.6 ล้านคน  แบ่งเป็นผู้สูงอายุ สัดส่วน 1/3 ของผู้ลงทะเบียน , ผู้พิการ 3 แสนคน , เป็นผู้ไม่มีรายได้สัดส่วน 1/5 ของผู้ลงทะเบียน , เป็นเกษตรกร 4 ล้านคน , รับจ้างอิสระและค้าขาย 3 ล้านคน

นี่คือปัจจัยที่น่าสนใจว่าจากสถิติที่ออกมาเป็นไปได้ว่า ประเทศกำลังตกอยู่ในภาวะใด เพราะเมื่อเศรษฐกิจมีปัญหา บรรดาบริษัท ห้าง ร้าน จำเป็นที่จะต้องลดจำนวนคนงานลง โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจอาชีพเสี่ยงตกงานและมาแรงที่สุดประจำปี 2561 พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการแรงงานที่มีความรู้และความสามารถด้านเทคโนโลยี การวางระบบซอฟต์แวร์ ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่ออาชีพ จะมาจากภาวะเศรษฐกิจไทย พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ทำให้หลายธุรกิจต้องปรับตัวรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา

สำหรับ 10 อาชีพเสี่ยงตกงานในปี 2561 ประกอบด้วย

1. อาชีพตัดไม้ ช่างไม้   2. พ่อค้าคนกลาง 3. อาชีพย้อมผ้า  4. บรรณารักษ์ และพนักงานไปรษณีย์ส่งจดหมาย5. พนักงานขายสินค้าหน้าร้าน 6. อาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าโหล 7. ช่างทำรองเท้า 8. เกษตรกร และครู-อาจารย์ 9. แม่บ้านทำความสะอาด 10. นักหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และผู้สื่อข่าวภาคสนาม

จากนี้ไปคือโจทยืของรัฐบาลในการทำนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ให้เป็นจริง ดังคำโฆษณา พร้อมไปกับประคองสภาวะการมีงานทำของคนในชาติให้สมดุลกัน

เพราะหากเกิดการแปรผกผัน ไทยแลนด์เป็น 4.0 นำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น แต่คนตกงานเพียบ

อนาคตของ “ประเทศไทย” ย่อมดูไม่จืด

Ringsideการเมือง


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่