นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระองค์กรอัยการรัฐวิสาหกิจองค์การมหาชนและกองทุนเปิดเผยถึงกรณีที่ นายชาญศิลป์ ตรีนุชยกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท. จำกัด มหาชน ออกชี้ชวนประชาชนโดยจะออกขายหุ้นของบริษัท ปตท.โออาร์ในหุ้นราคา IPO นั้น ซึ่งขณะนี้ทั้ง PTT และ PTT OR อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบการดำเนินงานในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง ปตท.พยายามหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ของกรรมาธิการ หรือไม่ เช่นระบุด้วยตัวเองว่า ”ตนไม่ได้ใช้เงินงบประมาณจากภาครัฐอันเป็นเงินภาษีของประชาชนแต่อย่างใด” กมธ.ไม่มีสิทธิตรวจสอบ
ซึ่งตนเห็นว่า หากปตท.โปร่งใสจริงจะกลัวอะไร ที่สำคัญหากไม่ได้ ค้ากำไรบนผืนแผ่นดินไทยและไม่ได้ใช้ทรัพยากรของแผ่นดินนี้ไม่ต้องให้ กระทรวงคลังใช้เงินประชาชนไปถือหุ้น ก็ต้องเปลี่ยนชื่อและต้องไม่ใช้ทรัพยากรของแผ่นดินไทย เมื่อนั้น คนไทยคงไม่รู้สึกอะไร แต่นี่ยังมาอวดอ้างว่าตนไม่ได้ใช้ภาษีของประชาชน ก็ขอให้รอผลการตรวจสอบการทุจริตเสียก่อนถึงค่อยขายหุ้นทำกำไร
ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องไปยังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต.เนื่องจากปตท.อยู่ระหว่างการตรวจสอบการบริหารงานในชุดของนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานใหญ่ ปตท. ว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ในช่วงปี2559-2562
ประธานกรรมาธิการกล่าวอีกว่า เพราะเมื่อคณะกรรมาธิการรัฐวิสาหกิจฯตรวจสอบการใช้งบประมาณ ของ ปตท.หลายประเด็น ในช่วงที่ผ่านมา ว่าชอบด้วยกฎหมายมีการทุจริตหรือไม่ตั้งแต่ปลายปี2559 ปตท.กลับตอบกรรมาธิการด้วยเอกสารและอาจเบี่ยงเบนหลายประเด็นอาทิอ้างว่า 1.ตนเองไม่ใช่รัฐวิสาหกิจและไม่ได้ใช้เงินภาษีของประชาชน 2.อ้างด้วยตัวเองว่าตนเองโปร่งใส 3.อ้างว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลให้ กมธ.ได้เพราะมีกฎระเบียบ ก.ล.ต.ที่ไม่ให้บริษัทมหาชนเปิดเผยข้อมูลได้ทั้งๆที่บริษัทจะขายหุ้นกลับไม่เปิดเผยและย้อนแย้งกับสิ่งที่ปตท.อ้าง
ซึ่งคณะกรรมาธิการได้ทำหนังสือสอบถามไปยังประธานรัฐสภา ,เลขาธิการรัฐสภา ถึงอำนาจหน้าที่กมธ.ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งยืนยันแล้วว่า ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจที่ต้องได้รับการตรวจสอบจาก กมธ.
ซึ่งขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองมีโรคระบาดจึงรอให้ผ่านสถานการณ์เช่นนี้ไปก่อน. แต่ปตท.ก็ไม่ควรฉวยโอกาสเช่นนี้คิดแต่จะขายหุ้นค้ากำไรและที่สำคัญต้องไม่ลืมรากของตัวเอง ที่ใช้ทรัพยากรของชาติ มาตั้งแต่ เป็นการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย มาทำกำไรเป็นแสนๆล้านอย่างไม่ลืมหูลืมตาในขณะนี้
ที่สำคัญ ก.ล.ต.ก็ตอบมาแล้วว่าปตท.ต้องเปิดเผยข้อมูลให้กับประชาชนทราบก่อนการซื้อขาย ไม่มีกฎระเบียบข้อใดที่ให้ปตท.ไม่ต้องตอบประชาชน ซึ่งขัดแย้งกับสิ่งที่ปตท.ชี้แจงกับกมธ.ส่อให้เห็นเจตนาไม่บริสุทธิ์หรือไม่
ตนจึงขอเรียกร้องให้ ก.ล.ต.พิจารณาชะลอการซื้อขายหุ้น ของ PTT OR เพราะที่ผ่านมาปตท.ชี้แจงเป็นเอกสารว่าบริษัทของตนเองไม่ได้ใช้เงินภาษีของประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นการดูถูกประชาชนประกอบกับธุรกิจพลังงานของประเทศไม่ควรทำกำไรกับประชาชนเพียงอย่างเดียว
นายจิรายุกล่าวอีกว่า สถานการณ์โรคระบาดในขณะนี้ปตท.ควรช่วยเหลือสังคมด้วยการลดราคาน้ำมันหรือราคาก๊าซ NGV ให้มากกว่านี้ แต่ปตท.ยังคิดแต่แสวงหากำไรจนประชาชนเดือดร้อนกันไปทั่ว ถึงขนาดต้องไปเข้าแถวซื้อแอลกอฮอล์จากปั๊มปตท.ที่มีราคาแพงมหาโหดถึง 110 บาทต่อลิตรในขณะที่น้ำมันของปตท.ลิตรละไม่ถึง 20 บาทใช่หรืจะแจกแอลกอฮอลี่จะแจกแอลกอฮอล์ให้กับประชาชน ฟรี เพื่อลด การแพร่ระบาดและยอมขาดทุนกำไรของตนเองที่มีปีละเป็น แสนๆล้านตนเชื่อว่า ขนหน้าแข้งไม่ร่วง วันนี้ ปตท.จะเสวยสุขจากกำไรในขณะที่ประชาชนเดือดร้อนทั้งๆ ใช้ทรัพยากรของแผ่นดินนี้อย่างเดียวไม่ได้ ทั้งนี้ตนขอขอบคุณสื่อมวลชนบางสำนักที่ช่วยตรวจสอบ ปตท. ในเชิงลึก อีกทั้งส่งข้อมูลช่วง ที่ประเทศยังอยู่ภายใต้คสช.ในปี2559-2562มาเป็นจำนวนมาก และที่ผ่านมา กมธ.ตรวจสอบร่วมกับหลายหน่วยงานพบความไม่ชอบมาพากล หลายเรื่อง และจะนำเข้าสู่การพิจารณาและหากมีผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตในครั้งนี้จะส่งเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการปปช.และปปท.ต่อไป
หน้าแรก news “จิรายุ” เฉ่งปตท. หากินกับคนไทย อย่าทำร้ายคนไทยหลังขายแอลกอฮอล์ แพงเว่อร์ลิตรละ110บาท โวยอย่าอาศัยช่วยโรคร้ายคิดแต่จะขายหุ้น PTT OR ทำกำไร ชี้ควรใส่ใจช่วยสังคม