ไม่มีอะไรเกินความคาดหมาย หลังจากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.เล่นเกมดึงเวลากันอยู่นาน ในที่สุดเข้าล็อกที่วางกันไว้ ยื่นตีความพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ส. หรือ พรป.ส.ส.จากเดิมที่ออกลูกยึกยัก หลังจากนั้นก็เงียบหายกันไปเพื่อแล้วรอเช็กกระแสหรือวางแผนการ
ก่อนที่สุดท้ายจะยกตนข่มท่านบอกว่าทำเพื่อประเทศชาติ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกสนช. ที่จับมือกับ 27 สนช. ยื่นหนังสือถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. อ้างเหตุเนื้อหาของร่างพรป.ดังกล่าว อาจจะเป็นปัญหาภายหลังและปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นการกลับลำยื่นหนังสือ ทั้งที่ก่อนหน้า พร้อมกับย้ำว่าไม่เคยรับสัญญาณจาก “บิ๊กตู่”
ส่งผลให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ต้องลงมาจากหอคอยงาช้าง เพื่อสางปัญหาที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า เมื่อได้รับหนังสือดังกล่าวแล้ว ทำให้ต้องมีหนังสือไปยังพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อสอบถามว่าได้นำร่างพ.ร.ป.ขึ้นทูลเกล้าฯแล้วหรือไม่ โดยสนช.จะต้องรอหนังสือตอบกลับจากนายกฯก่อน
ถ้านายกฯยังไม่ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯและนายกฯจะไม่ยื่นร่างพ.ร.ป.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ประธานสนช.จะได้ส่งคำร้องของสมาชิกสนช.จำนวน 27 คนไปยังศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากพ้นวันที่ 12 เมษายนโดยที่นายกฯไม่ได้ตอบกลับมา เท่ากับว่าหน้าที่ในการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้นเป็นอันหมดไป
ก็ถ่วงเวลาไปได้อีกนิด งานนี้ไม่ต้องเร่ง
อย่างไรก็ตาม ชัดเจนว่าสังคมมีความกังขา กับสิ่งที่ปรากฏ
นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจ ออกอาการสังสัย ใน 2 ประเด็น
1 ทำไมตอนตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย จึงไม่แก้ไขให้เรียบร้อยก่อนส่ง สนช. พิจารณา
และ 2 การยื่นตีความในประเด็นเรื่องการลงคะแนนของผู้พิการต้องเป็นเรื่อง “ลับ” แต่กฎหมายกลับให้เจ้าหน้าที่ประจำคูหาช่วยเหลือได้นั้น จำเป็นต้องยื่นตีความกันเชียวหรือ
เนื่องจากวันเลือกตั้งจริง น่าจะมีผู้พิการจำนวนน้อยมาก ที่มาฟ้องร้องกันว่ามีเจ้าหน้าที่ “แอบดู”
สอดคล้องกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ที่ระบุว่า กกต. จัดเตรียมไว้ให้ทั้งบัตรเลือกตั้งอักษรเบล แถมอนุโลมให้ใช้ทั้งปาก ทั้งขา กาบัตรเลือกตั้ง จึงน่าจะมีคนที่ไม่สามารถกาบัตรได้ จำนวนน้อยมาก และคิดว่าคนกลุ่มนี้ คงไม่ฟ้องร้องกันเพราะเจ้าหน้าที่มาแอบดูบัตร
ส่วนกรณีตัดสิทธิ์คนเบี้ยวการเลือกตั้ง ห้ามรับตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง
ตรงนี้ ก็ถือว่ามิได้ละเมิดสิทธิ์ใคร แต่เป็นสำนึกประชาธิปไตยของใครของมัน ที่คนจะมาเล่นการเมือง ก็ควรต้องให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง แต่ถ้าคิดว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ ก็สามารถฟ้องร้องเป็นเคสไป ในความเป็นจริง น่าจะมีคนมาฟ้องกันน้อยมาก
แต่ สนช. ดันทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬาร ถึงขั้นที่อาจจะเลื่อนเลือกตั้ง
ความฉงนคือ สนช. กำลังเล่นอะไรกันอยู่ แล้ว คสช. รู้เห็นด้วยหรือไม่
บางฝ่ายคิดไปว่าอาจจะเป็นเกมยื้ออำนาจของ คสช. ร่วมมือกับ สนช. ส่งซิกหาช่องยื้ออำนาจออกไปเท่าที่ทำได้ เพราะคะแนนนิยมรัฐบาล ยังไม่ดีนัก อยากจะลากยาวไปถึงช่วงที่ผลงานประชารัฐ ประชานิยม ออกดอก ออกผลก่อน
โดนอัดหนักๆแบบนี้มีหรือที่คสช.จะไม่ออกมาโต้บ้าง เพื่อนรักอย่าง “บิ๊กนมชง” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ออกมารับหน้าเสื่อแทน พล.อ.ประยุทธ์ เลยว่า กรณีฝ่ายการเมืองโจมตี กรณียื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ ว่า ไม่ไช่อย่างที่เป็นข่าว รัฐบาลอยากให้การเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมป ไม่ต้องการให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป นายกฯประกาศชัดเจนว่า ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการของ สนช. ดังนั้น หากโรดแมปต้องเลื่อนออกไปก็ไม่เกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ตีกรรเชียงหาทางออกแบบหน้าด้านๆ
สำทับกับเสียงเข้มๆของพี่ใหญ่แห่งบูรพาพฆัคย์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนยืนยันว่าการเลือกตั้งยังเป็นไปตามกรอบ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 และย้ำว่าไม่มีการเลื่อนเลือกตั้ง
ฝ่าย คสช.ออกตัว ไม่อยากอยู่ยาว เพราะความจริงคือ จะอยู่สั้นอยู่ยาว ก็ล้วนอยู่ต่อในรูปแบบอื่น จะอยู่เบื้องหน้า เบื้องหลัง ก็ได้กุมอำนาจอยู่ดี เพราะมีแผนยุทธศาสตร์ และ สว.ลากตั้ง คอยรับคำสั่งจากฝ่าย คสช.
ผิดจาก สนช. ที่ไปแล้วไปลับ อาจจะไม่กลับมา
ก็ชัดเจนแล้วว่า “ใคร” อยากอยู่ต่อ
Ringsideการเมือง