จับอาการนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวกับลูกพรรคนับร้อยชัดถ้อยชัดคำ ใครไม่หนุน ก็เซย์กู๊ดบายไอไม่เลิฟยู ฉุดความหวังฝ่าย กปปส. เก่าในพรรคประชาธิปัตย์ที่หวังหนุน “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ ให้ร่วงหวอยแทบเท้า
ก็นับว่าเป็นจุดยืนของนายอภิสิทธิ์ ที่มาถูกเวลา ในห้วงที่กระแส คสช. ไม่สู้ดีนัก เพราะสะสมคะแนนลบมาอย่างต่อเนื่อง หลังหมดช่วงฮันนีมูนพีเรียด ทั้งประเด็นข่าวคอรัปชั่น ที่ดัชนีเริ่มไม่หนีในยุคนักการเมือง การเลือกตั้งที่ถูกเลื่อนออกไปไม่รู้จบ และประเด็นแหวนแม่นาฬิกาเพื่อนที่เป็นหนามยอก “บิ๊กป้อม” อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
การประกาศแตกหักกับฝ่ายทหาร ชู “อภิสิทธิ์” เป็นนายกรัฐมนตรี จึงเป็นสิ่งที่สมควรยิ่ง
แต่ไหน แต่ไรมา พรรคประชาธิปัตย์ได้ชื่อว่า “ต้านเผด็จการ” ทุกรูปแบบ แม้นมีบางช่วงเขวไปบ้าง แต่การประกาศไม่หนุนนายกฯคนนอก นับได้ว่าได้ชูภาพ “ผู้ดีประชาธิปไตย” ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากถูกปู้ยี่ปู้ยำมาตลอดหลายปีหลัง
มีความสงสัยว่าเหตุไฉนพรรคประชาธิปัตย์ จึงกล้าประกาศตัดขาด “พลเอกประยุทธ์”
หากมองในมุมการเมือง หมากของประชาธิปัตย์ “ลับ ลวง พราง” เป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่เหนือการคาดเดา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หวังลึกๆ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เคลื่อนไหวหาเสียงมาโดยตลอด พร้อมไปกับแสดงทัศนะทางการเมืองต่อเนื่อง ประกาศตนว่าเป็นหัวหน้าพรรค “ตัวจริง” พร้อมกัน ยังพยายามถอยห่างจากกลุ่ม กปปส. เพื่อลบภาพเด็กน้อยในมือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เชื่อขนมกินได้ ว่าต้องการเป็นรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน เพราะการเป็นรัฐบาล สามารถสร้างผลงานเข้าตาประชาชนได้มากกว่า ไม่นับรวมประโยชน์อื่นที่ตามมา
ส่วนความปราถนาในการเป็นนายกฯของนายอภิสิทธิ์ เพื่อหวังเป้าอะไร ถึงวันนี้ ยังยากแท้ หยั่งถึง
อย่างไรก็ตาม โอกาสเป็นนายกฯ ของ “อภิสิทธิ์” หาใช่โรยด้วยกลีบกุหลาบ
พรรคประชาธิปัตย์รู้แน่แล้วว่า อย่างไรเสียคงชนะพรรคเพื่อไทยได้ลำบาก เฉกเช่นที่นายศิริโชค โสภา รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เคยให้สัมภาษณ์กับรายการ Ringsideการเมือง ในทำนองยอมรับชะตากรรม แต่ขอทำงานเต็มที่
การเข้ามาเป็นอันดับ 2 ในทางการเมืองสากล เท่ากับรับประกันการเป็นฝ่ายค้าน แต่กับการเมืองไทย แม้จะมาเป็นอันดับ 2 หาก “เล่นเป็น” ก็สามารถไปให้ถึงเป้าหมายได้ โดยเฉพาะหากเป้าหมาย คือ การเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ณ ช่วงเวลานั้นๆ
หากนั่งไทม์แมชชีนไปยังอนาคต แล้วพบว่ากระแสฝ่าย “บิ๊กตู่” ยังไม่กระเตื้อง โอกาสกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรียากเย็น เพราะประชาชนไม่ปลื้ม กลับกันอำนาจฝ่ายทหารยังมากโข
โอกาสจะกลับไปยังคนที่มีประชาชนเป็นฐานเสียงจำนวนมาก ให้ได้ชื่อว่ามาจากประชาชนบ้าง
พลเอกประยุทธ์ และคณะ คสช. ไว้ใจ เคยร่วมทำงานยากมาด้วย และมีสภาพเหมือนลูกไก่ในกำมือ อาทิ มีคดีติดตัว ที่ยังต้องการความช่วยเหลือจากฝ่ายอำนาจสีเขียว
คนนั้นจะเป็นใคร
ถ้าไม่ใช่ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่กำลังเล่นบทยี้ “นายกฯคนนอก” ณ ปัจจุบัน
ขอบคุณภาพ : ไทยรัฐ
Ringsideการเมือง