หน้าแรก Article “จากดาวฤกษ์ สู่อุกกาบาตทางการเมือง”

“จากดาวฤกษ์ สู่อุกกาบาตทางการเมือง”

0
“จากดาวฤกษ์ สู่อุกกาบาตทางการเมือง”
Sharing

ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง

 

หลังผ่านศึกซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจมากว่า 20 วันจนป่านนี้ ยังไม่มีบทสรุปถึง มาตรการการลงโทษกลุ่ม ส.ส.ดาวฤกษ์ ทั้ง 6 คนแห่งพรรคพลังประชารัฐ แม้แต่นิดเดียว ผมเชื่อว่างานนี้คง ค่อยๆหายไปกับสายลม งานนี้เท่ากับว่า พรรคภูมิใจไทย เจ็บตัวฟรี?! ใช่หรือไม่ คำตอบที่ผมวิเคราะห์ คิดว่าไม่ ไม่ในที่นี้ว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเยียวยาให้กับพรรคภูมิใจไทย ได้เก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่ม ผมคิดว่า พลังประชารัฐฉลาดพอที่จะไม่หลวมตัวตกปากรับคำ ในข้อเสนอแบบนี้ เพราะลำพังความวุ่นวายการจัดสรรเก้าอี้ดนตรี โควต้ารัฐมนตรีภายในพรรคตัวเอง ลำพังก็สาหัสมากพอสมควรแล้ว แต่ผมมองว่า วานนี้ทำให้ภูมิใจไทย มีแต้มต่อในทางการเมือง เพราะคำว่ามารยาททางการเมืองมันค้ำจุน ความชอบธรรมที่ไม่ให้พรรคพลังประชารัฐ จะหาญกล้ามาขอแลกเปลี่ยนเก้าอี้กระทรวงเศรษฐกิจ อย่างกระทรวงคมนาคม อีกต่อไป การที่คุณอนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้คะแนนไว้วางใจเป็นอันดับ1 (พรรคพลังประชารัฐ &เดอะแก๊ง คงคาดไม่ถึง เพราะมีการเตรียมการวางคะแนนให้คุณประวิตร และคุณธรรมนัสได้คะแนนเป็นอันดับ 1 และคะแนนไว้วางใจจากพรรคร่วมรัฐบาล มีคะแนนน้อยกว่า) จะได้เป็นข้ออ้างในการรวบกระทรวงเศรษฐกิจมาไว้เป็นของตัวเองทั้งหมด เมื่อถึงวงรอบเวลาที่เหมาะสมในการปรับคณะรัฐมนตรี

 

อะไร ทำให้ ส.ส.ดาวฤกษ์ สมัยแรก ของพลังประชารัฐ กล้ากินดีหมีมางดออกเสียงไว้วางใจ คุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม หลายคนคิดวิเคราะห์ว่า มาจากความขัดแย้งระหว่างคุณฉาย บุนนาค สามี มาดามเดียร์ กับ คุณเนวิน-ศักดิ์สยาม มีมาก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ผมมองว่า มีคนในพลังประชารัฐที่เป็นผู้ใหญ่มีอำนาจให้ไฟเขียว ส.ส. ทั้ง 6 คือกลุ่มดาวฤกษ์ ที่หลายฝ่ายให้เครดิตว่าเป็นกลุ่มนักการเมืองคนรุ่นใหม่ในพรรค จะทำให้กดดัน และสร้างความบอบช้ำให้คุณศักดิ์สยาม ได้ แต่พอพรรคภูมิใจไทย ตั้งตัวได้รีบจู่โจมก่อน เรื่องมารยาททางการเมืองทันที มันทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐตั้งตัวไม่ติด และรีบเปลี่ยนเกม ตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นทันที (ในกรณีที่คุณอนุทิน ไม่ได้รับคะแนนโหวตไว้วางใจมาเป็นที่ 1 เหตุการณ์คงกลับตาลปัตรไปอีกแบบทิศทางหนึ่ง นั่นคือการเดินหน้ากดดันขอแลกเก้าอี้รัฐมนตรีทันที)

 

ซึ่งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ใช้ชั้นเชิงทางการเมืองแสดงให้เห็นว่า ผู้ใหญ่อย่างพลเอกประวิตร หรือ เลขาธิการพรรค อย่างคุณอนุชา นาคาศัย ไม่ต้องลดตัวมาขอโทษ เพราะเป็นเรื่องของนักการเมืองเด็กๆ และต้องการทราบถึงบทลงโทษ!?!

ทำไมผมจึงให้ชื่อกลุ่ม ส.ส. ดาวฤกษ์ ที่มีแสงสว่างสุกไสวในตัวเอง แต่วันนี้ได้กลายร่างเป็น อุกกาบาตทางการเมือง ที่พุ่งชนเป้าไม่เลือก และไม่สนใจถึงความเสียหายทางการเมืองที่จะตามมา ซึ่งอุกกาบาตในทางวิทยาศาสตร์ หรือคงตามปรากฎการณ์ตามธรรมชาติที่เรารับรู้กัน เมื่อพุ่งตกไปที่ใครย่อม ไม่มีใครยินดีต้อนรับ มีแต่สร้างความเสียหายให้กลับมวลมนุษย์ชาติทั้งสิ้น น่าเสียดายครับ ถ้า ส.ส.ทั้ง 6  จะเลือกพุ่งชนเป้าหมายทางการเมือง โดยไม่สนใจถึงวิธีการและมารยาททางการเมือง น่าเสียดายจริงๆ


Sharing

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่