“ขอยืนยันว่าบริษัท ซิโน-ไทยฯ เป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลในการบริหาร นอกจากนั้นการฟอกเงินจากโครงการที่มีมูลค่าเพียง 8,000 กว่าล้านบาท ให้กลายเป็นเงินจำนวน 40,000 ล้านบาท เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ คนที่โจมตีเรื่องนี้มาจากการมโนหรือคิดเอาเองโดยไม่สุจริตใจและหวังผลทางการเมือง โดยไม่ยึดหลักความเป็นจริงแต่อย่างใด
หากพบว่ามีผลกระทบกับบริษัท จะมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายกับคนที่ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย”
เป็นลีลาดุดันของนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ในรายการ Ringsideการเมือง เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 หลังมีข่าวว่า บริษัท ซิโน-ไทยฯ ได้รับผลประโยชน์มหาศาล จากการต่อสัญญาสร้างรัฐสภา
ที่นักการเมืองบางคน และ “บางสำนักข่าว” นำไปขยายความอ้างวงใน คนใกล้ชิด ว่า บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของเมืองไทย กำลังใช้สภาใหม่ หาเงินเข้าบางพรรคการเมือง ที่มีความโยงใยกับขั้วรัฐบาล
เป็นที่มาของบทโหดจากนายภาคภูมิ ที่ต้องออกมาปรามพวกชอบให้ข่าว-เขียนข่าวเอาสนุก พร้อมไปกับอธิบายความจริงอีกด้านให้สังคมเข้าใจ
นายภาคภูมิ เปิดเผยว่า บริษัทรับงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ปี 2556 เป็นการก่อสร้างอาคารความสูง 11 ชั้นพื้นที่ 400,000 ตารางเมตร มีระยะเวลาก่อสร้างรวม 900 วัน แต่ที่ผ่านมาการก่อสร้างเป็นไปอย่างล่าช้า ปัญหาอยู่ตรงนี้คือการส่งมอบพื้นที่ของสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ไม่เป็นไปตามสัญญาที่กำหนดไว้ จากเดิมต้องส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมดปี 2557 แต่เลื่อนมาเป็นปี 2559 หรือล่าช้ากว่ากำหนดนานเกินกว่า 2 ปี จากสัญญา
แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะเร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญาใหม่ รวมทั้งจะเร่งดำเนินการก่อสร้างอาคารบางส่วนให้แล้วเสร็จภายในปีนี้เพื่อให้ข้าราชการและสมาชิกสภาได้เข้ามาทำงาน
บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าปัญหาการก่อสร้างจะไม่ทำให้การก่อสร้างล่าช้าอีกแม้จะไม่มีกำไร ทั้งนี้จากการประเมิน บริษัท ซิโน-ไทยฯขาดทุนจากการดำเนินการก่อสร้างโครงการมูลค่าประมาน 3,000 ล้านบาท ตรงนี้คงมีการหารือกับทางรัฐสภาว่าจะชดเชยให้บริษัทได้มากแค่ไหน”
สำหรับปัญหาการติดตั้งระบบไอซีที ที่ประเมินงบประมาณแล้วทะลุหลัก 8 พันล้านบาท และสังคมกำลังจับตามองในเรื่องมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ นายภาคภูมิระบุว่า บริษัท ซิโน-ไทย ไม่ได้เข้าไปมีส่วนกับการก่อสร้าง เช่นเดียวกับงานก่อสร้างพื้นที่จอดรถที่มีข่าวว่าปรับแบบลดสเป็ก ก็ไม่ใช่ความรับผิดชอบของ บริษัท ซิโน-ไทยฯ
ผู้บริหารของ ซิโน-ไทยฯ พยายามออกมาให้ข่าวทำความเข้าใจกับสังคมมาโดยตลอด เพื่อยืนยันความโปร่งใสในการทำงานของบริษัท เช่นเดียวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท ที่ต้องออกมาทำความเข้าใจกับสังคม หลังถูกนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์พูดพาดพิงว่า “เสี่ยหนู” เคยให้คนในพรรคประชาธิปัตย์มาขอให้หยุดขุดคุ้ยเรื่องทุจริตก่อสร้างรัฐสภา ขณะที่นายชวรัตน์ บิดาของนายอนุทิน ถึงขั้นโทรศัพท์มาคุย ขอให้ยุติ แล้วจะส่งผู้อำนวยการก่อสร้างมาอธิบาย
ที่นายอนุทิน โต้กลับไปว่า ไม่รู้จักนายวิลาศ เป็นการส่วนตัว จึงไม่เคยคุยด้วย และไม่จำเป็นต้องฝากใครให้มาเคลียร์ ที่สำคัญเป็นไปไม่ได้ที่บิดาจะโทรศัพท์มาคุยกับนายวิลาศ เพราะตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมาท่านมีปัญหาสุขภาพ เกินกว่าจะมานั่งสนใจเรื่องทำนองนี้
หลังจากนั้น มีงานเสวนา“การตรวจสอบปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ กรณีไอที-รัฐสภาแห่งใหม่” ทแต่เดิมมีเพียงนายวัชระ เพชรทอง นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ เจ้าหน้าที่สภา และนายศรีสุวรรณ จรรยา ร่วมวง แต่ไม่ได้เชิญเจ้าหน้าที่ของซิโน-ไทย รับฟัง
ทว่าข่าวการจัดงาน ถึงนายอนุทิน จึงประสานขอเข้าร่วมงาน และหวังอธิบายให้สังคมข้องใจ ที่ผู้จัดงานตอบรับข้อเสนอเป็นอย่างดี
นายอนุทินกล่าวระหว่างร่วมงานว่า
“บริษัทถือคติเอากล่องไม่เอาเงิน เอาศักดิ์ศรี เอาความภาคภูมิใจ จะได้เขียนลงในประวัติบริษัทว่าเคยก่อสร้างรัฐสภาซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของประเทศ ด้วยเกียรติของผม ของคุณพ่อผม มีเกียรติเพียงพอที่จะรับประกันว่าโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่มีความโปร่งใส ทุกท่านสามารถเข้าไปนั่งในสภาแห่งใหม่ได้ สะอาดแน่นอน ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล”
บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างดุเดือด
นายวัชระ นายวิลาศ และนายศรีสุวรรณ มีโอกาสถามทุกข้อสงสัย ขณะที่ฝ่าย “ซิโน-ไทยฯ”ได้ใช้ช่วงเวลาอันมีค่า ท่ามกลางนับข่าวเกือบร้อยชีวิตอธิบายให้สังคมเข้าใจ หวังยืนวันความโปร่งใสของตัวเอง หลังจากนั้น ข่าวของซิโน-ไทยฯ ได้หายไปจากหน้าสื่อ
แต่เรื่องยังไม่จบ เมื่อมี “บางกลุ่มสำนักข่าว” จ้องเล่นงานต่อ
เป็นความพยายามใช้ข้อมูลเดิม ที่ “ซิโน-ไทยฯ” อธิบายไปแล้ว นำมาเขียนใหม่ ใช้หัวข่าวพาดพิงฝ่ายเอกชน ขณะที่เนื้อหา แม้จะไม่ซัดว่าใครเป็นฝ่ายผิด แต่แค่การพาดหัว ก็ทำลาย “ซิโน-ไทยฯ” ไปแล้ว
สิ่งที่ปรากฏสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท ซิโน-ไทยฯ เป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ตอบรับคำเชิญของรายการ Ringsideการเมือง ในการเข้าร่วมรายการสดในวันจันทร์ที่ 9 เมษายน เพื่ออธิบายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสร้างรัฐสภา พร้อมกับเผยมาตรการตอบโต้ “นักการเมือง – สื่อบางฉบับ”
พร้อมกัน ยังย้ำด้วยว่า “พร้อมให้ข้อมูลในทุกเวที ถาม 100 ครั้ง ตอบ 100 ครั้ง”
ที่ผ่านมาฝ่ายบริหารของ “ซิโน-ไทยฯ” ขู่จะฟ้อง “ใครก็ตาม ที่ให้ข่าวเท็จ ทำลายความน่าเชื่อถือของบริษัท แต่แว่วมาว่า ยั้งมือไว้เสมอมาเพราะฝ่ายตรงข้ามเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น
แต่กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ไม่มีใครรับประกันได้ว่า “ความอดทน” ของซิโน-ไทยฯ จะมีไปถึงเมื่อไร
Ringsideการเมือง