นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวในรายการ Hard topics ช่อง money channel ในประเด็นเศรษฐกิจไทย ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาภาคเอกชนมีความเข้มแข็งมาก สามารถฝ่าวิกฤติประเทศมาได้นับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่ได้หมายความว่าภาครัฐบาลจะนิ่งเฉย เพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือการอำนวยความสะดวกให้กับเอกชนอย่างทั่วถึง และต้องไม่ทอดทิ้งประชาชน ที่อยากแนะนำคือการแก้ไขกฎหมาย ต้องให้ชาวบ้าน ทุนขนาดเล็ก ทุนขนาดกลาง ก้าวขึ้นมาสู้ทุนใหญ่อย่างเท่าเทียม
“ประเทศไทยพูดเรื่องการค้าเสรี – การส่งออก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เรากีดกันการนำเข้าสินค้าบางอย่างจากต่างประเทศ ทั้งที่มีราคาถูกกว่าของที่ผลิตในไทย โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องผู้ผลิตในประเทศ สิ่งที่ตามมาคือ สินค้าที่มาจากประเทศไทย มีราคาแพงกว่าต่างชาติ มันทำให้ส่งออกลำบาก เท่ากับว่าคุณปกป้องผู้ผลิตไม่กี่ราย แต่คุณกำลังทำลายธุรกิจการส่งออกของประเทศ”
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า อยากเห็นนโยบายที่ตอบสนองประชาชนได้อย่างทั่วถึง เพราะหลายปีที่ผ่านมา นโยบายของประเทศไทยมุ่งตอบโจทย์คนกลุ่มหนึ่ง แต่ทอดทิ้งคนอีกกลุ่มหนึ่ง มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะตัดสูทชุดเดียว แล้วหวังให้คนทั้งประเทศใส่พอดีตัว
ต่อคำถามเรื่องการใช้มาตรา 44 มีข้อดี – ข้อเสียอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ผมอยากให้มีการใช้มาตรา 44 ยกเลิกให้ศาลตีความกฎหมาย แล้วรีบไปเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริง มันคงทำไม่ได้ ตนจึงขอเป็นฝ่ายที่รออย่างมีความหวัง เชื่อมั่นท่านผู้นำว่าจะมีเลือกตั้งในช่วงต้นปี 2562 และจะไม่สร้างเงื่อนไข ให้การเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไปอย่างแน่นอน
สำหรับหลังการเลือกตั้ง บ้านเมืองจะสงบสุขหรือไม่ จะได้นายกฯคนนอก คนใน ขึ้นกับว่า นักการเมืองมีสปีริตแค่ไหน ถ้ามีสปีริต รู้แพ้ รู้ชนะ รู้กฎกติกา พรรคอันดับหนึ่งมีสิทธิ์ จัดตั้งรัฐบาล พรรคอันดับสองไม่ตีรวน ประชาธิปไตยของประเทศไทย ย่อมไปต่อได้ ไม่ต้องถึงมือนายกฯคนนอก